สวัสดีครับ
ที่ลิงค์นี้ มี story สนุก ๆ ที่ทำขึ้นสำหรับเด็กให้ฝึกฟังเรื่องง่าย
ๆ และถ้าสามารถฝึกพูดตาม – อ่านตาม ไปด้วย ก็ทำได้เลยครับ เนื้อหาทำนองนี้แม้ท่านเกินวัยเด็กแล้วก็ยังมีประโยชน์ยู่นั่นเอง เรา test ตัวเองได้ง่าย ๆ
เช่น เราฟังได้รู้เรื่องหมดไหมโดยไม่ต้องดูข้อความ,
เราพูดตามได้อย่างที่ได้ยินหรือเปล่า(โดยฟังเที่ยวเดียว), พอฟังจบเรื่องแล้ว เราสามารถพูดเล่าหรือเขียนเล่าโดยใช้สำนวนของตนเองได้หรือเปล่า
ฯลฯ ถ้าฝึกอย่างท้าทายทำนองนี้ บทเรียนสนุก ๆ สำหรับเด็กก็สามารถกลายเป็นบทเรียนสำหรับผู้ใหญ่ไปด้วย
เชิญครับ:
มี 2 ส่วน คือ
ส่วนแรก (ส่วนบนของหน้า)
เมื่อเข้าไปแล้ว จะพบว่า ส่วนแรกของหน้า เป็น story จำนวน 63 เรื่อง
Story เหล่านี้
มี 2 ลักษณะ
ตัวอย่างลักษณะที่ 1:
เมื่อเข้าไปในเรื่องแล้ว
ที่มุมล่างขวา จะมี 2 ปุ่มให้เลือกคลิก
คือ
-Page by Page ปุ่มนี้ มี transcript
ให้อ่านพร้อมฟังเสียง
- Movie ปุ่มนี้ มีแต่เสียง ไม่มี transcript
([แต่บางเรื่อง ปุ่มนี้ ไม่ทำงาน, ต้องใช้ปุ่ม Page by Page เท่านั้น)
ตัวอย่างลักษณะที่ 2:
จะมีปุ่มวงกลมต่าง ๆ 10 ปุ่ม ล้อมรอบนิทานที่จะเล่า ผมขอให้ท่านดูที่
4 ปุ่ม นี้ด้วยคือ
ปุมด้านขวามือ
-CHANT RHYTHM ฟังเสียงอ่านเป็นจังหวะ
ๆ สนุกดีครับ
-STORY ALONE (เป็น
listen and repeat คือ แต่ละประโยค
เมื่อมีเสียงอ่านประโยคแล้ว เขาจะหยุดนิดนึงเพื่อให้เราฝึกพูดตาม
ก่อนที่เขาจะอ่านประโยคถัดไป)
ปุ่มด้านซ้ายมือ
-STORY KOREAN ฟังประโยคภาษาอังกฤษ
และเกาหลี สลับกัน
-Game มีเกมให้เล่น
ส่วนที่ 2 (ส่วนล่างของหน้า)
มีหนังสือสำหรับเด็ก
หรือ CHILDREN'S BOOKS จำนวน
33 เล่ม
CHILDREN'S BOOKS: ONLINE
CHILDREN'S STORIES AND STORYBOOKS
เมื่อ LOADING
100% แล้ว ให้คลิกปุ่ม Play
ขณะที่ท่านฟังและอ่านตามไปทีละหน้านี้ ท่านสามารถคลิก Play/Pause ได้ตลอดเวลา
หรือจะคลิก backward เพื่อฟังซ้ำ ก็ได้
แถม: ศึกษาเพิ่มเติม http://www.angles365.com/classroom/
ก่อนจบผมขอพูดอะไรสักนิดนะครับ
อันเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษ
(ผมชอบใช้คำว่า เว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษ
มากกว่า เว็บไซต์สอนภาษาอังกฤษ, เพื่อให้เกิดความตระหนักว่า เราเป็นผู้เรียนที่ต้องรุก
อย่าง active,
ไม่ใช่เป็นผู้รับการสอน อย่างซึม ๆ อย่าง passive)
อันเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษ ในเน็ต คุณภาพดีที่ผู้ใหญ่ฝรั่งทำขึ้นเพื่อเด็กฝรั่ง และเราคนไทยก็ได้ใช้ประโยชน์ด้วยนี้ เขาไม่ค่อยมีคำอธิบายการใช้งานโดยละเอียดให้อ่านหรอกครับ เราต้องลงทุนคลิกเข้าไปลองใช้ด้วยตัวเอง ถ้าโชคดีมันก็ง่าย, พอคลิกปุ๊บมันก็เข้าใจปั๊บเลย, แต่บางทีมันก็ซับซ้อนบ้างและต้องอ่านภาษาอังกฤษที่เขาอธิบายไว้ และตรงนี้แหละครับ ที่คนไทย – เด็กไทย ไม่ค่อยยอมลงทุนศึกษาด้วยตัวเอง ทั้ง ๆ ที่เป็นของฟรี, ของดี ๆ เยอะแยะในเน็ตก็จึงเป็นของไร้ค่าเพราะเราไม่ยอมลงทุนเข้าไปหามัน
พิพัฒน์
No comments:
Post a Comment