Thursday, February 2, 2012

[2122] โรคอ้วน กับโรคอังกฤษอ่อน มีสาเหตุ-อาการ-และทางแก้ เดียวกัน

 สวัสดีครับ
ในฐานะบล็อกเกอร์ของ e4thai.com มีท่านผู้อ่านถามมาบ่อย ๆ ว่า ภาษาอังกฤษของฉันอ่อนมาก อยากพูดเก่ง เขียนเก่ง ฟังรู้เรื่อง ทำยังไงถึงจะเก่งเร็ว ๆ บางคนแถม deadline ให้มาอีกด้วยว่า อีก 2 อาทิตย์จะไปสอบนั่น-นี่-โน่น ทำยังไงถึงจะสอบได้

นี่เป็นคำถามที่ดี เพราะเป็นเรื่องจริงที่ท่านผู้อ่านเจอ แต่ผมกลับรู้สึกว่า คำตอบที่ผมให้มักไม่ค่อยดี เพราะบ่อยครั้งที่ผมตอบในทำนองนี้
ถ้ามีเพื่อนสนิทถามคุณด้วยคำถามที่คุณถามผม และเขาหวังคำตอบจากคุณจริง ๆ คุณจะตอบว่ายังไง ถ้าคุณได้คำตอบที่คุณจะให้เขาหลังจากที่คิดทบทวนอย่างรอบคอบแล้ว ผมขอบอกว่า คำตอบของผมก็คงไม่ต่างจากคำตอบของคุณ มากนัก

ผมไม่แน่ใจว่า มีบางท่านขุ่นเคืองผมหรือไม่ที่ตอบเช่นนี้ แต่ผมก็หมายใจที่จะตอบท่านเช่นนี้จริง ๆ 


มานั่งนึกทบทวนดูอีกทีก็เห็นว่า โรคอ้วน กับโรคอังกฤษอ่อน มีสาเหตุ-อาการ-และทางแก้ เดียวกันเลย และการที่เหมือนกันเช่นนี้ ก็เป็นที่ชัดเจนว่า ทุกคนรู้คำตอบ คือ ถ้าไม่อยากอ้วน ก็ต้องกินน้อย ออกกำลังมาก ถ้าทำได้ก็ไม่อ้วน นี่ชัดเจนมาก คำถามทำนองเดียวกัน ถ้าอยากเก่งอังกฤษต้องทำยังไง ก็ต้อง รักเรียน-ขยันเรียน-ปักใจเรียน-ใคร่ครวญเรียน ก็อิทธิบาท 4 นั่นแหละครับ ถ้าทำได้ก็เก่ง

คำชี้แจงแถลงไขข้างบนนี้ แม้ผมจะเห็นอย่างนั้นจริง ๆ แต่ก็รู้สึกว่าเป็นคำตอบที่ดิบ ถ้าเป็นอาหารก็น่าคาย ถ้าเป็นเครื่องดื่มก็น่าบ้วนทิ้ง ผมจึงขอแก้ตัว คุยเรื่องโรคอ้วน และโรคอังกฤษอ่อน ซะใหม่ ว่ามันมีสาเหตุ-อาการ-และทางแก้ คล้าย ๆ กันยังไง  ผมหวังว่าคำตอบใหม่นี้จะน่าฟังกว่าคำตอบเดิม ขอว่าไปทีละข้อเลยนะครับ  ตามที่นึกออก

[1] มันเป็นเรื่องของกรรมเก่าอยู่เหมือนกัน
หลายคนอ้วนมาตั้งแต่เด็ก พ่ออ้วน แม่อ้วน ลูกก็เลยรับมรดกอ้วน หรือพ่อกินเก่ง แม่กินเก่ง ลูกก็เลยเอาใจพ่อแม่กินเก่งตามไปด้วย ก็เลยอ้วนมาเรื่อย ๆ จนโต คิดกลับใจไม่อยากอ้วนก็ยากเพราะลงทุนกินมาเยอะ

โรคอ่อนอังกฤษก็เป็นเรื่องของกรรมเก่าอยู่ไม่น้อย หลายคนโชคดีเจอครูที่ตั้งใจสอน แต่โชคร้ายที่ครูคนนั้นสอนไม่เก่ง สอนน่าเบื่อ ก็เลยไม่เก่งและเบื่อภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กจนโต  คิดกลับใจอยากเก่งและรักอังกฤษบ้างก็ชักจะยาก เพราะลงทุนเกลียดและขี้เกียจเรียนอังกฤษมานาน

แต่....  ผมอยากจะบอกดัง ๆ ว่า ต่อให้อ้วนขนาดไหนก็ผอมได้ถ้าใจอยากผอม ต่อให้อ่อนภาษาอังกฤษขนาดไหนก็เก่งขึ้นได้ถ้าใจอยากเก่ง คำถามก็คือ คุณมีใจหรือเปล่าล่ะ

[2] ถ้าสิ่งแวดล้อมไม่เร่งเร้าให้เราเล่าเรียน เราก็ต้องออกแรงเร่งเร้าตัวเอง
ถ้าเราอยู่ในย่านที่มากด้วยของอร่อยก็คงกินมากหน่อยเป็นธรรมดา ในทำนองเดียวกัน ถ้าเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เร่งเร้าให้เล่าเรียนภาษาอังกฤษ  เราก็คงจะขยันเรียนภาษาอังกฤษไปได้เองโดยไม่ต้องเคี่ยวเข็ญตัวเอง เพราะสังคมแวดล้อมและกลุ่มเพื่อนช่วยเสริมแรงทำให้เราไม่ต้องออกแรงเอง

แต่ถ้าเราไม่ได้โชคดีมีสิ่งแวดล้อมเป็นพี่เลี้ยง ก็จำเป็นครับที่เราต้องออกแรงมากเป็นพิเศษ เมื่ออยากกินเยอะก็ต้องออกแรงดึงใจให้กินน้อยลง สำหรับภาษาอังกฤษ เมื่ออยากเรียนน้อยก็ต้องออกแรงผลักใจให้อยากเรียนเยอะขึ้น เราไม่มีทางเลือกอย่างอื่นหรอกครับ ผมต้องพูดซ้ำประโยคเดิมว่า
ถ้าสิ่งแวดล้อมไม่เร่งเร้าให้เราเล่าเรียนภาษาอังกฤษ เราก็ต้องออกแรงเร่งเร้าตัวเอง


[3] ออกกำลัง – เรียนอังกฤษ: กิจวัตรที่ควรทำทุกวัน ทั้ง ๆ ที่เกลียดและขี้เกียจทำ
การเกลียดคือไม่มีฉันทะ การขี้เกียจคือไม่มีวิริยะ  แต่ถ้าเราหวังสุขภาพและประโยชน์  เราก็ต้องทนทำไปทั้ง ๆ ที่ขาดทั้งฉันทะและวิริยะนี่แหละครับ ถ้ารอให้ใจรู้สึกรักและขยันซะก่อนจึงค่อยออกกำลังกายและออกกำลังเรียน  ก็คงหมดหวังที่จะได้สุขภาพดีและความเก่งภาษาอังกฤษ   คำพูดเช่นนี้ไม่มีอะไรใหม่เลย ทุกคนเคยได้ยินมาทั้งนั้น ท่านที่ถามถึงวิธีเก่งภาษาอังกฤษก็เคยได้ยินคำตอบแบบนี้ แต่คำตอบนี้จะมีความหมายก็ต่อเมื่อท่านบอกตัวเองเท่านั้น เพราะคนอื่นบอกท่าน   ท่านคงไม่ฟังหรอก
ท่านลองบอกตัวเองซีครับว่า การออกกำลัง และการเรียนอังกฤษ เป็นกิจวัตรที่ควรทำทุกวัน ทั้ง ๆ ที่เราเกลียดและขี้เกียจทำ

[4] อยากผอมทันใจ อยากเก่งทันใจ ทำไงดี
ทุกวันนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่ตกเป็นเหยื่อการโฆษณาสรรพคุณเกินจริง ควักเงินซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกาย ผลิตภัณฑ์หรืออาหารเสริมสุขภาพ ที่แพงเกินเหตุ ที่บอกว่า คุณจะผอมลงอย่างรวดเร็วราวปาฏิหาริย์ถ้าซื้อสินค้าของเขามาใช้ โดยไม่ต้องออกกำลังกาย ไม่ต้องลดอาหาร อดอาหารใด ๆ ทั้งสิ้น บริษัทพวกนี้ร่ำรวยมากมายจากเงินของคนที่อยากผอมทันใจ  แต่ไม่อยากออกแรงทำอะไรเลยให้ผอมอย่างที่อยาก

ในทำนองเดียวกัน มีคนจำนวนไม่น้อยควักเงิน ซื้อหรือดาวน์โหลดไฟล์ หรือหนังสือ  หรืออุปกรณ์ในการเรียนภาษาอังกฤษตุนเก็บไว้มากมาย  แต่ไม่ยอมเจียดเวลาและออกแรง ฝึกพูดภาษาอังกฤษให้ออกมาจากปาก, ไม่ยอมฝึกอ่านและตีความภาษาอังกฤษให้รู้เรื่อง, ไม่ยอมตั้งใจฝึกฟังภาษาอังกฤษให้ค่อย ๆ เข้าใจทีละน้อย เขาหวังให้ปาฏิหาริย์วิ่งมาชนจนสลบไป และตื่นขึ้นมาเป็นคนใหม่ที่พูดภาษาอังกฤษได้คล่องปรื๋อและเขียนอ่านภาษาอังกฤษได้ดังใจ  

ฉะนั้น ต่อคำถามที่ว่า อยากผอมทันใจ - อยากเก่งอังกฤษทันใจ ทำไงดี  ถ้าอนุญาตให้ผมตอบตรง ๆ ก็ขอตอบว่า ถ้าคุณอยากคุณก็ต้องพยายาม ถ้าคุณใฝ่ฝันคุณก็ต้องฟันฝ่า โลกนี้ไม่มีปาฏิหาริย์สำหรับคนช่างฝันแต่ไม่ยอมฝึกฝนหรอกครับ
โรคอ้วน กับโรคอังกฤษอ่อน มีสาเหตุ-อาการ-และทางแก้ เดียวกัน ด้วยประการฉะนี้

พิพัฒน์

1 comment:

Anonymous said...

บทความดีมากๆค่ะ ชอบตรงที่มีธรรมะ มาเกี่ยวด้วยจัง ขอบคุณที่ช่วยแนะนำแนวทางนะคะ