สวัสดีครับ
-1- |
ผมเข้าใจว่าเมืองไทยมีสัดส่วนของประชากรที่นับถือศาสนาพุทธมากที่สุดในโลก
และก็มีจำนวนคนที่ห้อยพระมากที่สุดในโลกเช่นกัน
ผมเคยไปประเทศเพื่อนบ้าน คือ พม่า กัมพูชา ลาว และเวียดนาม
ก็ไม่เห็นว่าเขาห้อยพระกันเกร่อเหมือนคนไทย
ครั้งหนึ่งผมถามชาวกัมพูชาคนหนึ่งซึ่งมาประชุมที่เมืองไทยว่า เขาห้อยพระหรือเปล่า เขาบอกว่าเปล่า และเขาถามย้อนกลับว่า เวลาที่ผมเข้าส้วมผมอมพระไว้ในปากหรือเปล่า ผมบอกว่าเปล่า และจากการพูดคุยก็พอสรุปได้ว่า เขาเห็นว่าส้วมเป็นสถานที่สกปรก พกองค์พระเข้าไปจึงไม่สมควรเพราะพระเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ผมไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืดว่า ถึงแม้พระท่านเองตอนที่ท่านยังไม่ได้มรณภาพท่านก็เข้าส้วม เราห้อยท่านไว้ที่คอเข้าส้วมด้วยกันก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร ผมได้แต่คิดไม่กล้าพูดครับ
-2- |
ครั้งหนึ่งผมถามชาวกัมพูชาคนหนึ่งซึ่งมาประชุมที่เมืองไทยว่า เขาห้อยพระหรือเปล่า เขาบอกว่าเปล่า และเขาถามย้อนกลับว่า เวลาที่ผมเข้าส้วมผมอมพระไว้ในปากหรือเปล่า ผมบอกว่าเปล่า และจากการพูดคุยก็พอสรุปได้ว่า เขาเห็นว่าส้วมเป็นสถานที่สกปรก พกองค์พระเข้าไปจึงไม่สมควรเพราะพระเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ผมไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืดว่า ถึงแม้พระท่านเองตอนที่ท่านยังไม่ได้มรณภาพท่านก็เข้าส้วม เราห้อยท่านไว้ที่คอเข้าส้วมด้วยกันก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร ผมได้แต่คิดไม่กล้าพูดครับ
บางคนบอกว่า
ทุกวันนี้พระแครื่องกลายเป็นพุทธพาณิชย์ไปแล้ว ผมก็ถามตัวเองเล่น ๆ ว่า demand
กับ
supply อะไรมันเกิดก่อน
คือคนต้องการห้อยพระ วัดก็เลยทำพระ(ขาย)ให้คนห้อย หรือว่า วัดทำพระและโฆษณา ทำให้คนอยากและซื้อมาห้อย
หรือว่ามันมีทั้ง 2 อย่างนั่นแหละ
แต่ว่าอย่างไหนมันมากกว่ากันล่ะครับ?
-4- |
ผมเดาว่าคนไทยนิยมห้อยพระมาเป็นร้อย
ๆ ปีแล้ว อย่างเช่น พระเครื่องยอดนิยม พระเครื่องชุดเบญจภาคี
ก็มีอายุเก่าแก่อย่างยิ่ง
และผมเชื่อว่าตอนที่สร้าง ผู้สร้างไม่ว่าจะเป็นพระหรือโยม
คงไม่ได้กะสร้างขาย แต่คงจะสร้างขึ้นมาเพื่อให้คนห้อยพระที่คอระลึกถึงพระรัตนตรัย
ส่วนความขลัง ไม่ว่าจะเป็นด้านแคล้วคลาด เมตตามหานิยม หรือ ลาภสักการะ
น่าจะเป็นของแถม เข้าทำนอง two-in-one คือห้อยพระทีเดียว
ได้ทั้งของแท้และของแถม
ครั้นตกมาถึงยุคนี้
หลายคนไม่ว่าจะเป็นคนห้อยหรือคนทำ เน้นของแถมมากกว่าของแท้ หรือเอาของแถมอย่างเดียว
เพื่อนของผมบางคน
โดยเฉพาะผู้หญิงมักพูดว่า เขานับถือพระด้วยใจ ห้อยพระองค์ไหนก็เหมือนกัน
พูดอย่างนี้ถูกต้อง 100% เลยครับ
แต่มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ชอบพระเครื่องในแง่อื่น และชอบเอามาก ๆ ถึงขั้นหลงไหล
เป็นความชอบและความเชื่อ ที่คนซึ่งไม่เชื่อและไม่ชอบอาจไม่เข้าใจ เช่น ในแง่พุทธศิลป์(งาม) หรือแง่พุทธปาฏิหาริย์
(ขลัง)
เพื่อนของผมอีกนั่นแหละที่ถามว่า
พระเครื่องอย่างพระสมเด็จ ดูตรงไหนที่เรียกว่า “งาม” ผมเองไม่ใช่เซียนพระ แต่อาศัยที่กินข้าวกับเซียนพระบ่อย ๆ
ก็ชักรู้สึกว่าพระสมเด็จบางองค์งามจริง ๆ ถ้าท่านถามว่างามยังไง ผมก็ตอบไม่ได้หรอกครับ เพราะอย่างที่บอกแล้ว ผมยังไม่ใช่เซียนพระ
แต่เรื่องที่จะคุยจริง ๆ วันนี้ คือการแนะนำเว็บไซต์พระเครื่องที่เป็นภาษาอังกฤษ ผมเชื่อว่า คงจะมีบ้างคนที่ชอบภาษาอังกฤษอย่างผม แต่ก็กะลิ้มกะเหลี่ยชอบพระเครื่องกะเขาเหมือนกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะได้ถือโอกาสฝึกภาษาอังกฤษจากเว็บพระเครื่องไทยที่เป็นเว็บภาษาอังกฤษ เข้าไปในเว็บครั้งเดียวได้สองอย่างเลย เป็น two-in-one คือ ได้ทั้งความรู้เรื่องพระเครื่อง และได้ฝึกภาษาอังกฤษด้วย
-7- |
-7- |
ไปที่เว็บนี้ครับ: http://www.thai-amulets.com/gallery.php
1.คลิกเลือกที่ช่อง Select Monks หรือ Select Temple หรือ Select Amulet
Type
2.คลิกเลือกภาพพระองค์ใดองค์หนึ่งที่เว็บโชว์
3.ท่านจะพบว่า
แต่ละองค์มีคำอธิบายไว้ เป็นภาษาอังกฤษ สั้นบ้าง ยาวบ้าง
หรือจะไปที่ลิงค์นี้ก็ได้ครับ
พระสมเด็จวัดระฆังสะสมไว้เยอะ ผมขอให้เขาถ่ายรูปบางองค์ให้ผมนำลงบล็อกวันนี้ เพื่อแบ่งปันแฟนพระเครื่องด้วยกันได้ดูให้ชื่นใจ
ส่วนถ้าใครดูรูปแล้วอยากดูของจริง เชิญติดต่อ “เซียนสาโรจน์”
ด้วยตัวท่านเองแล้วกันครับ ที่นี่: sar_chang@hotmail.com
-8- |
สำหรับท่านที่คิดว่า วันนี้ผมได้ค่าเปอร์เซนต์จากเพื่อนเพราะนำพระเครื่องของเขามาโฆษณาในบล็อกของผม ผมปฏิเสธครับ
สาเหตุที่นำมาลงไว้ให้ท่านชมก็เพื่อสีสันของเรื่องที่เขียนเท่านั้นแหละครับ
-
-9- |
-10- |
-11- |
-12- |
-13- |
-14- |
-15- |
No comments:
Post a Comment