สวัสดีครับ
แหล่งที่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปอ่าน & แสดง ข้อมูล & ความคิดเห็น นอกเหนือจากสื่อมวลชนตามปกติ เช่น หนังสือพิมพ์ วารสาร โทรทัศน์ วิทยุ แล้ว Web Board หรือ Blog ที่มากับอินเตอร์เน็ต เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่เปิดโอกาสอย่างมหาศาลเพื่อกิจกรรมนี้
ผมขอชวนทุกท่านเข้าไปที่เว็บบอร์ด หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ 2 ฉบับของเมืองไทย หนังสือพิมพ์ The Nation และ หนังสือพิมพ์ Bangkok Post ที่นี่ครับ
The Nation: http://blog.nationmultimedia.com/
Bangkok Post: http://www.bangkokpost.com/blogs/
ข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Web Board หรือ Blog ก็คือ ท่านจะได้อ่านหลากหลายความคิดเห็น ข้อมูล เรื่องเล่า ซึ่งมีไม่น้อยที่ต่างจากหนังสือพิมพ์ที่ท่านอ่านหรือทีวีที่ท่านชมอยู่เป็นประจำ และมีเสรีมากกว่าในการเขียน ฉะนั้น คุณภาพของเนื้อหาและการใช้ภาษาอังกฤษขอให้อยู่ในวินิจฉัยของท่านครับ และแน่นอนว่า ท่านจะได้ฝึกการอ่าน – การเขียนภาษาอังกฤษด้วยครับ
อีก 1 เว็บครับข้างล่างนี้ ที่รวบรวมกว่า 160 Blog ที่เขียนเกี่ยวกับเมืองไทย น่าสนใจอย่างยิ่งครับ
http://www.thailandvoice.com/
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
Sunday, February 25, 2007
[77] อ่าน-เขียน Web Board ภาษาอังกฤษ
Posted by pipat - blogger at 9:33 PM
Saturday, February 24, 2007
[76] พูด-เขียนยังไงไม่ให้เยิ่นเย้อ (Wordiness)
สวัสดีครับ
ปัญหาอย่างหนึ่งของการเขียน ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษ คือการใช้คำฟุ่มเฟือยเกินจำเป็น ผมเองก็มีปัญหานี้มากพอสมควร ก็คงต้องฝึกฝนกันไปเรื่อย ๆ
เว็บข้างล่างนี้ผมรวบรวมมาเพื่อใช้ศึกษาเอง ขอถือโอกาสเอามาแบ่งปันกับทุกท่าน สำหรับผม- เว็บข้างล่างนี้มีประโยชน์มากครับ มีทั้งคำอธิบายที่ดี- แบบฝึกหัด-และเฉลย น่าจะมีประโยชน์สำหรับท่านที่ต้องการฝึกฝนการเขียนภาษาอังกฤษนะครับ
1) http://owl.english.purdue.edu/ (พิมพ์คำว่า wordiness ในช่องใต้คำว่า “Search the OWL::” แล้วคลิก search
2) http://web.uvic.ca/~gkblank/wordiness.html
3) http://leo.stcloudstate.edu/style/wordiness.html
4) https://mit.imoat.net/handbook/wordines.htm
5) http://staff.jccc.net/pmcqueen/Tips/wordiness.htm
6) http://www.class.uidaho.edu/adv_tech_wrt/resources/sentence_style/Wordiness.htm
7) http://www.bristol.mass.edu/Department_Pages/Quest_Writing_Lab/grammar/wordines.htm
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 5:10 PM 0 comments
[75] พูดภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์
เพิ่ม 18 พค 51: [204] การบอกเพื่อให้สะกดชื่อเฉพาะทางโทรศัพท์
สวัสดีครับ
เว็บข้างล่างนี้ บอกเทคนิคต่าง ๆ ในการพูดภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์ และวลีหรือประโยคที่ต้องใช้บ่อย ๆเป็นเว็บฝรั่งแต่อ่านไม่ยากครับ
(ตอนนี้ผมยังหาเว็บไทยไม่พบ ถ้าพบเมื่อไรจะนำมาบอกครับ)
1) วลี/ประโยค ที่ใช้บ่อยในการพูดโทรศัพท์: http://esl.about.com/library/speaking/bltelephone_vocab.htm
2) พูดฝากข้อความทิ้งไว้ที่ Answering Machine ของโทรศัพท์: http://esl.about.com/library/speaking/bltelephone_message.htm
3) เทคนิคในการทำให้อีกฝ่ายหนึ่งพูดช้าลง: http://esl.about.com/library/speaking/bltelephone_tips.htm
4) วิธีฝึกพูดทางโทรศัพท์จริง ๆ: http://esl.about.com/library/speaking/bltelephone_exercises.htm
5) Role Play ในการฝึกพูดโทรศัพท์: http://esl.about.com/library/speaking/bltelephone_role.htm
6) Tip, train, test การใช้โทรศัพท์: http://www.englishclub.com/speaking/telephone.htm
7) ตัวอย่างบทสนทนาทางโทรศัพท์ มีเสียงให้ฟังด้วย: http://www.focusenglish.com/dialogues/communication/commindex.html (คลิก GO)
8) อธิบายหลักเกณฑ์การพูดโทรศัพท์ในงานธุรกิจ: http://ec.hku.hk/epc/telephoning/ มีไฟล์เสียง และ text ให้ดาวน์โหลดด้วย
9) ประโยคสั้น ๆ ที่ใช้พูดโทรศัพท์ในสถานการณ์ต่าง ๆ :
http://www.speakspeak.com/html/d2g_english_telephone_language_library.htm
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 4:39 PM 3 comments
[74] วิธีเขียนภาษาอังกฤษให้อ่านง่าย ๆ (Plain English)
สวัสดีครับ
ผมมีโอกาสได้อ่านบทความซึ่งว่าด้วยการเขียนภาษาอังกฤษ แบบ plain English หรือ plain language แล้วก็รู้สึกชอบใจ การเขียนหนังสือไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไรก็ตาม ถ้าสามารถทำให้คนอ่านเข้าใจ ถูกต้องได้ง่าย ๆ ทันที ถือเป็นเรื่องที่ดี, การเขียน style นี้ตามที่ผมเข้าใจยังไม่มีการเผยแพร่ให้รู้จักกันในวงกว้างเท่าที่ควร บางคนเข้าใจไปว่าอ่าน plain English แล้วไม่มีรสชาติ น่าเบื่อ แต่จริง ๆ แล้ว plain English สามารถทำให้คนอ่าน เข้าใจ – ชอบใจ – ประทับใจ ไปพร้อม ๆ กันเลยทีเดียว
หลักการพื้นฐานในการเขียน plain English เช่น
1. ใช้โครงสร้างประโยค ประธาน + กริยา + กรรม
2. อย่าใช้ศัพท์ที่คนอ่านคนหรือคนฟังไม่เข้าใจหรืองุนงง
3. ใช้คำกริยา แทนที่จะใช้คำนามที่แปลงมาจากคำกริยา เช่น ใช้ "introduce" แทนที่จะใช้ "introduction." [ ใช้ "Jim introduced the speaker" ไม่ใช้ "Jim made the introduction of the speaker." ]
4. .ใช้ active voice มากกว่า passive voice
5. อย่าใช้ประโยคยาวเกินไป
สำหรับผมเอง การเขียน plain English ให้มัน plain กลับไม่ใช่ของง่ายนัก เข้าทำนอง “เขียนแล้วอ่านง่าย-เขียนยาก, แต่เขียนแล้วอ่านยาก-เขียนง่าย” หลายท่านที่เคยอ่านตำราฝรั่ง อาจเคยเจอว่า ตำรา 2 เล่มเนื้อหาแทบจะเหมือนกันเดี๊ยะเลย, เล่มหนึ่งอ่านแล้วเข้าใจได้น้อยเหมือนอ่านภาษาขอม แต่อีกเล่มหนึ่งเข้าใจได้มากยังกะอ่านภาษาไทย เพราะเขาเขียนโดยใช้ plain English
เชิญเข้าไปศึกษาการเขียนแบบ Plain English ได้ที่นี่ครับ
เว็บที่ 1 http://www.askoxford.com/betterwriting/plainenglish/?view=uk
เว็บที่ 2 http://en.wikipedia.org/wiki/Plain_English
เว็บที่ 3 http://plainlanguage.com/
และอย่าลืมอ่านเพิ่มเติมที่ External Links http://en.wikipedia.org/wiki/Plain_English#External_links นะครับ จะช่วยให้เข้าใจ Plain English มากขึ้นอีกเยอะทีเดียว
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 2:20 AM 4 comments
[73] อ่าน ‘เศรษฐกิจพอเพียง’ (ภาษาไทย + อังกฤษ)
สวัสดีครับ
วันนี้มาอ่านเรื่องที่มีสาระแต่อาจจะหนักสักนิดกันไหมครับ คือเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง”
ภาษาไทย: http://www.sufficiencyeconomy.org/
ภาษาอังกฤษ: http://www.sufficiencyeconomy.org/en/
ส่วนข้างล่างนี้น่าจะเป็นฝรั่งเขียนวิจารณ์ “เศรษฐกิจพอเพียง”
http://en.wikipedia.org/wiki/Sufficiency_Economy#Localism_in_Thailand
http://www.atimes.com/atimes/Southeast_Asia/IB02Ae01.html
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 1:39 AM 0 comments
Friday, February 23, 2007
[72] คำอะไรน้า... มันติดอยู่ที่ริมฝีปากนี่เอง ?
สวัสดีครับ
เคยเจอไหมครับ นึกถึงศัพท์ตัวนึง มันคลับคล้ายคลับคลา แต่ก็นึกไม่ออก หรืออยากจะรู้ว่า คำที่มีความหมายอย่างนี้ มันมีศัพท์ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร
ถ้าท่านเจอปัญหานี้ บางที Reverse Dictionary อาจจะช่วยท่านได้ ไปที่เว็บนี้ครับ
http://www.onelook.com/reverse-dictionary.shtml
วิธีหาก็คือ พิมพ์คำที่ท่านคิดว่า เป็นความหมายของศัพท์ตัวที่ท่านกำลังมองหา เช่น
- จำไม่ได้ว่าเมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ชื่ออะไร จึงพิมพ์ลงไปว่า capital of Switzerland ก็จะได้คำว่า Berne
- จำได้ว่า มีภูเขาลูกหนึ่งในสหรัฐที่สลักหน้าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ 3 คนไว้บนนั้น แต่จำไม่ได้ว่า ชื่อภูเขาอะไร อยู่ที่เมืองไหน ก็พิมพ์ลงไปว่า mountain faces US presidents ก็จะได้มาหลายคำ ซึ่งรวมทั้งคำ Rushmore ซึ่งเป็นชื่อภูเขาลูกนั้น
- อยากรู้ว่า คำว่า ตายเพราะขาดอากาศหายใจ คำภาษาอังกฤษคืออะไร ก็พิมพ์ลงไปว่า die cannot breathe ก็จะได้มาหลายคำ ซึ่งรวมทั้งคำ suffocate ซึ่งแปลว่า die from lack of oxygen ด้วย
- อยากรู้ว่า คำที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มีอะไรบ้าง ก็พิมพ์คำว่า computer ลงไป ก็จะได้ศัพท์มากมายที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
- อยากรู้ว่า คำที่มี concept เกี่ยวข้องกันมีอะไรบ้าง เช่นพิมพ์คำว่า love ลงไป ก็จะได้หลายคำที่มี concept เกี่ยวข้องกับคำว่า love
- พิมพ์คำว่า color ลงไป ก็ได้ศัพท์สีต่าง ๆ มากมาย
- ผมลองพิมพ์คำว่า Thailand ลงไปเล่น ๆ แล้วก็ต้องแปลกใจว่า ดิกเว็บนี้หาคำที่เกี่ยวข้องกับ Thailand มาให้ดูเยอะแยะเลย ซึ่งมี khaosai galaxy thaksin shinawatra และ saksit (ศักดิ์สิทธิ์) ด้วย
- เมื่อพิมพ์คำว่า Bangkok ลงไป ก็ได้คำที่เกี่ยวข้องมา 25 คำ เมื่อคลิกที่คำเหล่านี้ ก็จะได้อ่านความหมายที่เขาให้ไว้ 1. thailand 2. capital of thailand 3. bahts 4. tai 5. thais 6. thai 7. thonburi 8. chao phraya 9. chatuchak weekend market 10. clinton plaza 11. don muang airport 12. nangklao13. pantip plaza 14. patpong 15. skytrain 16. death railway 17. emerald buddha 18. gulf of thailand 19. khlong 20. new sukhothai 21. politics of thailand 22. supachai panitchpakdi23. suvarnabhumi airport 24. thai airways international 25. wat phra kaew
ลองเล่นดูซีครับ สนุกดี
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 1:28 AM 0 comments
Wednesday, February 21, 2007
[70] การออกเสียงภาษาอังกฤษ (พยัญชนะ/สระ/คำ/ประโยค)
สวัสดีครับ
การออกเสียง หรือ pronunciation เป็นเรื่องที่ควรฝึกหัดก่อนพูด หรือ speaking
เว็บข้างล่างนี้อธิบายการออกเสียง มีไฟล์เสียงให้ดาวน์โหลดฟัง และมีแบบฝึกหัดให้ลองทำครับ
เว็บไทย http://www.navy.mi.th/dockyard/knowledge.htm
เว็บฝรั่ง http://www.soundsofenglish.org/pronunciation/index.htm
และอีกหลายเว็บเกี่ยวกับ การออกเสียง (pronunciation)
http://www.rong-chang.com/pronun.htm
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 1:48 AM 0 comments
Tuesday, February 20, 2007
[69] ดูหนัง ฝึกภาษา
สวัสดีครับ
ในสารพัดวิธีที่จะทำให้เราเก่งภาษาอังกฤษ ผมว่าวิธีดูหนังน่าจะสนุกที่สุด
คราวหน้าเมื่อท่านจะซื้อ CD หนังสักเรื่อง ให้เช็คดูให้แน่ก่อนนะครับ ว่า CD แผ่นนั้น ท่านสามารถเลือกฟังทั้งเสียงพากย์ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ โดยมี subtitle หรือบทสนทนาให้เลือกทั้งไทยและอังกฤษ
เราสามารถเลือกดูหนังจากแผ่น CD แบบนี้ได้หลายวิธี เช่น ฟังภาษาไทยให้เข้าใจ 1 เที่ยวก่อน ส่วนเที่ยวที่ 2 อาจจะฟังเสียงพากย์อังกฤษ เที่ยวที่ 3 อาจจะฟังเสียงพากย์อังกฤษพร้อมกับอ่าน subtitle ภาษาอังกฤษ หรือจะสลับไปสลับมา ฟัง-อ่าน อังกฤษ-ไทย ไทย-อังกฤษ ตามใจชอบ
ผมมีข้อสังเกตอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นหนัง Action บทสนทนาจะน้อยเกินไป หรือพูดเร็ว-มี Slang มากเกินไป แต่หนังที่เราจะดูเพื่อสนุกและฝึกภาษาไปพร้อมกัน ควรจะมีบทสนทนามากสักหน่อย หนังจำพวก drama จะดีกว่า และหนังของ Walt Disney จะดีที่สุด ทั้งเนื้อเรื่อง - ศัพท์ - สำนวน - และสำเนียง
เมื่อฟังเสียงพากย์อังกฤษ เราสามารถพูดตามเป็นระยะ ๆ ก็จะเป็นการฝึก Speaking ไปในตัว
ซื้อ CD หนังฝรั่ง Drama แผ่นก็อปปี้ ซึ่งมีเสียงพากย์ และ subtitle อังกฤษ-ไทย สัก 1 แผ่น 100 กว่าบาท มาเป็นอุปกรณ์ในการฝึกภาษาอังกฤษ ได้ทั้ง ฟัง-อ่าน-พูด จะฝึกกี่สิบเที่ยวก็ได้ น่าจะคุ้มค่านะครับ
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 11:45 PM 4 comments
คลิกดูสารบัญ หัวข้อที่ 1 - 100
หน้าแรก: http://www.intereladsd.blogspot.com/
[ คลิกดู สารบัญ แยกประเภทหัวข้อ. ]
[แนะนำ: [22] รวมเว็บไทย สอนภาษาอังกฤษ]
[ คลิกดูสารบัญ หัวข้อที่ 101 - 200 ]
[ คลิกดูสารบัญหัวข้อที่ 201- 300 ]
[คลิกดูสารบัญ หัวข้อที่ 301 - 400 ]
[ คลิกดูสารบัญหัวข้อที่ 401 - 500 ]
* * * * *
[100] ทบทวน Vocab ให้ ‘เข้าใจ’ & ‘ใช้เป็น’
[99] ภาษาอังกฤษสำหรับชั้นประถมศึกษา
[98] เชิญดาวน์โหลดดิกดีไปให้เด็กเล่น
[97] อยากให้คุณติดเกมส์ !
[96] idiom: ทั้ง ‘เข้าใจ’ และ ‘ใช้เป็น’
[95] เล่มเกม กริยา 3 ช่อง
[94] ต้องรู้ศัพท์กี่ตัวจึงจะพอใช้
[93] เดาศัพท์จาก prefix - suffix
[92} ชมพุทธประวัติพากย์ไทย-subtitle ภ.อังกฤษ
[91] พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
* * * * *
[90] Student Weekly…นิตยสารพัฒนา Reading Skill
[89] บทเรียน ภาษาอังกฤษ รายวัน
[88] เชิญTest ระดับ ภ. อังกฤษของตัวเองได้ที่นี่ครั...
[87] รวม Learner’s Dictionary ใช้ฟรี online
[86] “เปิดฟ้าภาษาโลก” โดย ร.ต.อ. นิติภูมิ นวรัตน์...
[85]ดาวน์โหลด Freeware เรียนพิมพ์ดีด & แบบฝึกหัด
[84] เรียน Grammar.. วันละบท.. ที่นี่ครับ
[83] Listening Lab Online ที่ดีสุด ๆ
[82] เรียน Listening 40 บท.. ฟรี!
[81] ทำอะไรไม่เป็น...มาที่นี่ครับ (“How-to” Webs)
* * * * *
[80] ชมวีดิโอ 'พุทธสังเวชนียสถาน' (ภ.อังกฤษ)
[79] นิตยสารที่มีคนอ่านมากที่สุดในโลก
[78] เรียนภาษาอังกฤษกับคุณ Andrew Biggs
[77] อ่าน-เขียน Web Board ภาษาอังกฤษ
[76] พูด-เขียนยังไงไม่ให้เยิ่นเย้อ (Wordiness)
[75] พูดภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์
[74] วิธีเขียนภาษาอังกฤษให้อ่านง่าย ๆ (Plain Engl...
[73] อ่าน ‘เศรษฐกิจพอเพียง’ (ภาษาไทย + อังกฤษ)
[72] คำอะไรน้า... มันติดอยู่ที่ริมฝีปากนี่เอง ?
[71] เดาศัพท์จากเรื่องที่อ่าน-เดายังไง?
* * * * *
[70] การออกเสียงภาษาอังกฤษ (พยัญชนะ/สระ/คำ/ประโยค)...
[69] ดูหนัง ฝึกภาษา
[68] สารบัญ Free English Study Online
[67] รวม idiom ที่นี่ครับ
[66] เว็บที่ผู้ใหญ่ฝรั่ง ทำขึ้นเพื่อเด็กฝรั่ง
[65] อ่านนิยายก็มีประโยชน์
[64] เว็บสำหรับท่านที่จะสอบ listening พรุ่งนี้
[63] เล่นเกม crosswords สนุก & เพิ่มศัพท์
[62] ชวนอ่านธรรมะภาษาอังกฤษ !
[61] free online library - อ่านหนังสือฟรี
* * * * *
[60] เปิดประตูเข้าไปดูคลังศัพท์ของฝรั่งทางเน็ต
[59] อ่าน “ธรรมบท” เพื่อธรรมรสและอรรถรส
[58] แนะนำหนังสือแกรมมาร์
[57] “two-word verb” ฉบับสมบูรณ์ ที่นี่ครับ
[56] ลองทำข้อสอบ Reading เล่น ๆ สักหน่อยไหมครับ
[55] ศึกษาอังกฤษจาก Voice of America
[54] ชม Internet Videos ฝึกภาษา
[53] คุยกันเรื่องแกรมมาร์
[52] เนื่องในวันแห่งความรัก
[51] ฝึกฟังอังกฤษให้รู้เรื่อง
* * * * *
[50] เว็บนี้เพื่อเด็กโดยเฉพาะครับ
[49] ชื่อนี้เขียนเป็นภาษาอังกฤษยังไง ?
[48] ถ้าท่านแน่ ขอท้าทาย ให้ทดสอบ.. ศัพท์ !
[47] เล่น Hangman เพิ่มคำศัพท์
[46] หาศัพท์เป็นหมวดๆ โดยใช้ Google
[45] เว็บฝรั่งสอนภาษาอังกฤษ.. ดีๆทั้งนั้น....
[44] เตรียมตัวสอบโทเฟล
[43] ขอให้ฝรั่งพูดทุกอย่างตามที่ท่านบอก ที่เว็บนี้...
[42] รวม picture dictionary online
[41] เล่นเกม 20 คำถามกับคอมฯ (ขอเตือน: ระวังติด)
* * * * *
[40] ฝึกภาษากับ freeware
[39] เรียนภาษาจากหนังสือพิมพ์
[38] วิธีเขียนใบสมัครขอทุนไป ตปท.
[37] เมื่อท่านถูกสั่งให้เป็นล่าม
[36] แบบฟอร์มแปลเอกสารทะเบียนราษฎร์
[35] “ความฝันอันสูงสุด” The Impossible Dream
[34] ดูหนังการ์ตูนและฝึกภาษา จากเน็ต
[33] อ่าน นสพ.-ฟังวิทยุ-ดูทีวี ทั่วโลกจากเน็ต
[32] เรียนภาษา... ผ่านเพลง...
[31] บอกศัพท์ ทุกเว็บ ทุกคำ แค่วางเมาส์ (จากไทย เป...
* * * * *
[30] เขียนมาเล่าสู่กันฟังครับ
[29] ซื้อดิกพกติดตัวไว้สักเล่มก็ดีนะครับ
[28] วิทยุ.. ทีวี.. เรียนภาษาฟรี มีทุกช่อง
[27] เล่นเกมคำศัพท์กับ Picture Dictionary
[26] อ่าน “ภาพข่าว”
[25] ฟิตอังกฤษ… ฟิตอย่างไร?
[24[ ดาวน์โหลดดิกฟรีลงเครื่องไว้ใช้งาน
[23] เว็บนี้มีทุกอย่าง สำหรับคนรักอังกฤษ
[22] รวมสุดยอดเว็บไทย สอนภาษาอังกฤษ ที่นี่ครับ !
[21] ฟิตภาษา…ก่อนไปสอบ
* * * * *
[20] บอกศัพท์ ทุกเว็บ ทุกคำ แค่วางเมาส์
[19] สำนวน-คำพังเพย ไทย เทียบ อังกฤษ
[18] เรียนภาษาอังกฤษกับครูดิ๊ก
[17] ฝึกสนทนากับฝรั่ง ฟรี !
[16] เล่น Scrabble กระตุ้นต่อมศัพท์
[15] ใช้ Talking Dict จากหน้าคอมฯ
[14] เช็คสต็อก ‘คลังศัพท์’ของท่านได้ที่นี่ครับ
[13] เรียงคำได้... ก็พูดได้
[12] ‘เรียนลัดไวยากรณ์จากการสนทนา’
[11] ขึ้นบันไดทีละขั้น.. ฟังอังกฤษทีละคำ..
* * * * *
[10] ‘พูดต่อศัพท์’ ฆ่าเวลากับเพื่อน
[9] อ่าน ‘ข่าวฝรั่ง’ แปลไทย
[8] 1 วัน... 1 คำ... 1 สำนวน...
[7] ประโยคนี้... พูดยังไงเป็นภาษาอังกฤษ?
[6] คำถามนี้.. บางทีท่านอาจอยากรู้คำตอบ !
[5] 'ดิกช่าง' ที่อาจช่วยท่าน
[4] chat กับ 'Alice'
[3] test ศัพท์ น่าสนุกจริง ๆ
[2]'ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว'
[1]เปิด ‘ดิก’ ฟรี จากเน็ต
test อังกฤษ
Posted by pipat - blogger at 8:50 AM 59 comments
[67] รวม idiom ที่นี่ครับ
สวัสดีครับ
วันนี้เอา สำนวนภาษาอังกฤษ หรือ idiom มาให้อ่านเล่นครับ อาจจะจดจำไปใช้บ้างก็ได้ครับ
http://www.yindii.com/ref/idioms/idiom1.htm (เป็นภาษาไทย+อังกฤษ จาก yindii.com) ..อ่านแล้ว คลิก Next Idiom ไปเรื่อย ๆ..
http://www.kengpasa.com/Exercise/idioms/idioms.asp เว็บไทย
http://mail.mod.go.th/etmr/tip/tip15/tip_u15_1.html เว็บไทย
http://mail.mod.go.th/etmr/tip/tip15/tip_u15_2.html เว็บไทย
http://towerofenglish.com/idioms.html http://www.usingenglish.com/reference/idioms/
http://www.idiomsite.com/
http://www.eslcafe.com/idioms/
http://a4esl.org/q/h/idioms.html
http://www.certifiedchinesetranslation.com/idioms/
http://www.english-zone.com/idioms/
http://www.better-english.com/vocabulary/allids.htm
จากเว็บ GoEnglish.com
Most popular idioms: http://www.goenglish.com/Idioms.asp
Index: http://www.goenglish.com/IdiomsIndex.asp
Quiz: http://www.goenglish.com/IdiomsQuiz.asp
Idioms Review:
http://www.goenglish.com/AboutFace.asp
คลิกในช่อง “________” ใต้แถบสีส้ม เพื่ออ่านคำตอบ
Phrasal Verbs
http://www.learnenglish.org.uk/grammar/phrasal.asphttp://cctc2.commnet.edu/grammar/phrasals.htm http://www2.gsu.edu/~wwwesl/egw/phraverb.htm
Slang
http://www.manythings.org/slang/
http://www.peakenglish.com/slang/dailySlang.jsp
http://www.manythings.org/slang/
Cambridge International Dictionary of Idioms http://dictionary.cambridge.org/default.asp?dict=I
ถ้ารู้สึกตึงเครียดก็ไปที่เว็บสุดท้ายนี่ครับ http://www.bored.com/categories/funstuff/funstuff.html
พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com
Posted by pipat - blogger at 1:10 AM 0 comments
[66] เว็บที่ผู้ใหญ่ฝรั่ง ทำขึ้นเพื่อเด็กฝรั่ง
สวัสดีครับ
ยิ่งผมท่องเข้าไปใน Internet มากเท่าใด ก็ยิ่งพบมากเท่านั้นว่า อินเตอร์เน็ตนี่แหละสามารถเป็นมหาวิทยาลัยได้สำหรับทุกคน ในนั้นมีอะไรเยอะแยะให้คนรักความรู้ได้รับความรู้เพิ่มขึ้น, ให้คนชอบไตร่ตรองสามารถไตร่ตรองได้ดีขึ้น, และให้คนที่มีความพอใจเพราะได้รู้เรื่องราวของโลก สามารถตักตวงความพอใจให้แก่ตัวเองมากขึ้น
ผมชอบใจเว็บที่เขาจัดทำไว้ให้เด็ก ๆ หรือเยาวชนโดยเฉพาะ มีข้อมูลหลากหลายจากสารพัดศาสตร์นับไม่ถ้วน เมื่อดูถี่ถ้วนจึงเห็นว่า เว็บพวกนี้ 1.เหมาะสำหรับเด็ก(และเยาวชน) 2.เหมาะสำหรับผู้ปกครองของเด็ก ศึกษาไว้เพื่อคุยกับเด็ก และ 3.เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ศึกษาไว้คุยกับเพื่อน คิดดูก็น่าเสียดายที่ตอนผมเป็นเด็กไม่มีของพวกนี้ให้เล่น
จากการถามน้อง ๆ หลายคนในที่ทำงาน เขาบอกว่าที่อ่านภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง หรือรู้เรื่องช้าเอามาก ๆ เพราะ 1.ไม่รู้ศัพท์ และ 2.งงรูปประโยค, โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยคยาว ๆ ประเภท 3 บรรทัดประโยคเดียว, อ่านแล้วไม่รู้เรื่อง, ทั้ง ๆ ที่บางทีรู้ศัพท์แทบทุกตัว. ในที่นี้
คำแนะนำของผมก็กำปั้นทุบดินทุกครั้ง คือ ฝึก ฝึก และ ฝึก .... ต่อไปเรื่อยๆ จากน้อยไปมาก, จากง่ายไปยาก, จากเนื้อเรื่องที่ชอบมากไปสู่เรื่องที่ชอบน้อยแต่น่าจะรู้, จากเดือนละครั้ง - เป็นสัปดาห์ละครั้ง – เป็นวันละครั้ง. ผมยังเชื่อภาษิตจีนที่เคยอ่านจากหนังสือกำลังภายในว่า “ฟ้าไม่รานน้ำใจคนพยายาม”
และข้างล่างนี้คือเว็บที่เขาจัดทำไว้ให้เด็กและเยาวชนโดยเฉพาะ ทั้งเพื่อช่วยในการทำการบ้าน ศึกษาหาความรู้ และความเพลิดเพลิน เมื่อเข้าไปในแต่ละเว็บ นอกจากดูว่าเขามีอะไรให้ค้น – อ่าน – ฟัง – เล่น – เขียน – คุย – ฯลฯ แล้ว, แทบทุกเว็บจะมีช่อง search ให้เราค้นเรื่องที่อยากรู้, ขอเชิญเข้าไปได้เลยครับ
Yahooligans! : http://yahooligans.yahoo.com/
Ask Jeeves Kids: http://www.ajkids.com/
KidsClick!: http://www.kidsclick.org/
Monster: http://www.factmonster.com/
PBS KIDS: http://pbskids.org/
FunBrain: http://www.funbrain.com/
ALA Great Web Sites for Kids: http://www.ala.org/ala/alsc/greatwebsites/greatwebsiteskids.htm
Education World: http://www.education-world.com/
Kid Space: http://www.ipl.org/div/kidspace/
Awesome Library : http://www.awesomelibrary.org/
DiscoverySchool: http://school.discovery.com/homeworkhelp/bjpinchbeck/
BBC Schools: http://www.bbc.co.uk/schools/
HomeworkSpot: http://www.homeworkspot.com/
Nationalgeographic/Kids: http://www.nationalgeographic.com/kids/
- http://www.rong-chang.com/kids.htm
- http://www.woodlands-junior.kent.sch.uk/Homework/ http://www.stratford.library.on.ca/kids/home.htm - http://www.knowledgerush.com/kr/jsp/db/directory.jsp?categoryId=5&categoryName=Children
และข้างล่างนี้รวมหลาย ๆ search engine สำหรับเด็ก ไว้ในหน้าเดียวกัน http://www.ivyjoy.com/rayne/kidssearch.html
http://www.rcls.org/ksearch.htm
http://www.tekmom.com/search/
http://kids.ithaki.net/
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 12:34 AM 0 comments
Sunday, February 18, 2007
[64] เว็บสำหรับท่านที่จะสอบ listening พรุ่งนี้
สวัสดีครับ
สำหรับท่านที่กำลังจะไปสอบ listening ในไม่ช้านี้ เช่นพรุ่งนี้ หรือสัปดาห์หน้า เว็บนี้เหมาะกับท่านอย่างยิ่งครับ
1. ไปที่ http://www.englishlistening.com/
2. คลิกที่ “FREE GUEST AREA” ด้านขวาของหน้า
3. จะขึ้นหน้าตาของเว็บที่จะใช้งาน (คอมฯ ของท่านต้องลงโปรแกรม JAVA ไว้ก่อน)
ขอชี้แจงการใช้งานดังนี้ครับ
a) ที่คอลัมน์ซ้ายมือใต้คำว่า Passages มีเรื่องให้ท่านคลิกเลือกทั้งหมด 30 เรื่อง (1 บรรทัด 1 เรื่อง)
b) เมื่อท่านดับเบิ้ลคลิกที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง จะปรากฏดังนี้
- ที่คอลัมน์ซ้ายมือ ในช่อง Details เหนือช่อง Passages จะมีสรุปย่อเนื้อเรื่องที่ท่านคลิก
- ในคอลัมน์กลางหน้า ด้านล่างใต้คำว่า Details มีบอก Topic ของเรื่อง, ความยาวของไฟล์เสียง, สำเนียงของผู้พูด, เพศ, และความเร็วของเสียงพูด
- เมื่อคลิกเครื่องหมายสามเหลี่ยมใต้ภาพ ก็จะได้ยินเสียงพูด มีปุ่ม pause ด้วย
- ที่ตอนบนของภาพ เมื่อคลิก Transcript จะปรากฏบทพูด ท่านสามารถใช้เมาส์ลากเส้นขวางใต้ภาพลงมา เพื่อขยายเนื้อที่ของ Transcript ได้; คลิก Questions เพื่ออ่านคำถาม; คลิก Questions and Answers เพื่ออ่านคำถามพร้อมคำตอบ
ขอแนะว่าท่านไม่ควรคลิกดู Transcript จนกว่าจะฟังหลายรอบแล้วไม่รู้เรื่องจริง ๆ จึ่งค่อยคลิกอ่าน
ท่านที่เน็ตช้า เสียงที่ฟังอาจติด ๆ ขัด ๆ ต้องใจเย็นหน่อยครับ แต่ถ้าเป็น high speed คงไม่มีปัญหา
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 9:23 PM 4 comments
[63] เล่นเกม crosswords สนุก & เพิ่มศัพท์
สวัสดีครับ
ผมเองเป็นคนหนึ่งล่ะที่เมื่อเปิดหนังสือพิมพ์ฝรั่งแล้วจะไม่ยอมเล่นเกม crosswords เด็ดขาด ที่ไม่ยอมเล่นก็เพราะมันยาก เอาศัพท์อะไรก็ไม่รู้มาให้เราเล่น เป็นศัพท์ที่รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะไม่รู้จะได้ใช้เมื่อไร
แต่ผมกลับจะต้องชวนให้ท่านเล่น crosswords ในเว็บข้างล่างนี้ครับ เพราะว่าศัพท์ที่ใช้เล่นทุกคำเป็นศัพท์สามัญที่พบบ่อยและใช้จริงในชีวิตประจำวันในการฟัง – พูด – อ่น – เขียน ภาษาอังกฤษ หากจำได้จะมีประโยชน์แน่ ๆ แถมไม่ยากเกินไปเพราะมี hint ช่วยแนะตอนติดขัด ท่านจะเล่นเอง เล่นกับเพื่อน เล่นกับบุตรหลาน ได้ทั้งนั้นครับ
http://www.manythings.org/e/crosswords.html
http://www.manythings.org/cs/
http://a4esl.org/a/c3.html
http://iteslj.org/cw/
หมายเหตุ: ถ้าเครื่องของท่านยังไม่มีโปรแกรมนี้ ท่านอาจจะต้องดาวน์โหลด J2SE Runtime Environment 5.0 จึงจะสามารถเล่น graphic ของเว็บได้ ไปดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับ: http://tinyurl.com/ybxm7v
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 5:32 PM 0 comments
[61] free online library - อ่านหนังสือฟรี
ขอแนะนำลิงค์ใหม่ที่เพิ่งเขียนเพิ่ม
[716] ดาวน์โหลดหนังสือดี & ฟรี ที่เพิ่งวางตลาด
* * * * *
สวัสดีครับ
ทุกท่านรู้ดีว่าอินเตอร์เน็ตคือห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยากรู้อะไรก็เข้าไปหาอ่าน และหลานท่านก็เคยชินที่จะใช้ Mr Google เจ้าประจำให้ช่วยหาของที่เราอยากอ่าน ซึ่งคุณกูเกิ้ลก็ทำงานได้ดีพอสมควร เราให้หาอะไรก็มักได้อย่างนั้นมาให้อ่าน เรียกว่ามี relevance สูง นี่เองทำให้คนทั่วไปไม่อยากใช้ search engine ยี่ห้ออื่นที่พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง สั่งให้ค้นเรื่องหนึ่งกลับค้นอีกเรื่องหนึ่งมาให้อ่าน
แต่ถ้าเราต้องการอ่านตำรา หรือหนังสือเป็นเล่ม ๆ และต้องการอ่านฟรีด้วย เราน่าจะตรงเข้าไปที่ site ซึ่งเขามีบริการเช่นนี้ฟรี ๆ เรียกว่าเป็น free online library ผมขอแนะนำที่นี่ครับ http://www.ipl.org/
ที่นี่เขารวบเว็บอื่น ๆ อีกหลายเว็บที่ให้บริการหนังสือฟรีเช่นกันมารวมไว้
แต่ ปัญหาในการใช้เว็บกลุ่มนี้ก็คือการ Search หรือค้นหาเรื่องหรือเล่มที่เราต้องการอ่าน จะค้นกันยังไงจึงจะไม่เสียเวลามากและได้อ่านสิ่งที่ต้องการไว ๆ
แทบทุกเว็บมักจะมีเครื่องมือช่วยเราค้นอยู่ 2 ลักษณะ คือ
1. Menu จะทำเป็นหัวข้อแยกประเภทไว้ให้เราคลิกเลือก มีเมนูเช่นนี้ดีตรงที่ว่า เราจะได้ดูก่อนว่าเขามีอะไรให้เราบ้าง เหมือนเข้าไปในร้านหนังสือและเดินดูตามชั้นซะก่อน ที่เว็บ ipl.org นี้ เขาวางเมนูไว้ที่คอลัมน์ซ้ายมือ หรือท่านจะคลิกเลือกที่นี่ก็ได้ครับ
http://www.ipl.org/div/subject/
2. เขาจะมีช่อง Search ให้เราค้น ก็คือ เรารู้แล้วว่าเราต้องการอ่านเรื่องหรือหัวข้ออะไร ก็ Search หาเอาเลย ที่ ipl.org นี้ เขาให้เรา Search ได้ 2 วิธี คือ Traditional กับ Grok It เป็นช่องอยู่ที่มุมบนขวามือ หรือท่านจะไปที่นี่ก็ได้ครับ http://www.ipl.org/div/sitesearch/ ลองศึกษาวิธีใช้ Search ของเขาหน่อยนะครับ ถ้าใช้เป็นแล้วจะช่วยย่นเวลาในการหาอีกมากทีเดียว
ที่ เว็บ ipl.org นี้ เขามื Reading Room ให้เราโดบเฉพาะ มีทั้ง Books, Magazines และ Newspapers ที่นี่ครับ: http://www.ipl.org/div/reading/
สำหรับBook: http://www.ipl.org/div/subject/browse/hum60.60.00/
เขารวม site ต่าง ๆ ที่ให้อ่านหนังสือฟรีทั้งเล่ม หรือให้ลองอ่านเฉพาะบางหน้ามาไว้ในที่เดียวกัน ท่านลองอ่านสรุปของแต่ละ site และคลิก site ที่ท่านเห็นว่าน่าจะมีหนังสือเล่มที่ท่านต้องการอ่าน
โดยส่วนตัวเอง ผมชอบอยู่ 5 site คือ
1. The Online Books Page: http://digital.library.upenn.edu/books/
2. Project Gutenberg: http://www.gutenberg.org/wiki/Main_Page
3. World Wide School Library: http://www.worldwideschool.org/library/catalogs/bysubject-top.html
4. สำหรับน้องที่ยังเป็น ‘kid’ KidSpace Home: http://www.ipl.org/div/kidspace/
5. สำหรับน้องที่เป็น ‘teen’ แล้ว Teen Space: http://www.ipl.org/div/teen/
ขอเพิ่มเติมอีก 1 เว็บซึ่งมีหนังสือฟรีให้อ่านอีกมหาศาลเช่นกัน
http://www.digitalbookindex.org/ เว็บใหญ่มาก ต้อง Login ก่อน
http://www.e-book.com.au/freebooks.htm
หวังว่าทุกท่านคงได้อ่านเล่มที่ต้องการนะครับ ถ้ายังไม่อยากอ่านเล่มไหนเลยก็ลองหยิบมาอ่านสักเล่มก็ดีครับ เขาไม่คิดตังค์
พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com
Posted by pipat - blogger at 1:04 PM 7 comments
Saturday, February 17, 2007
[60] เปิดประตูเข้าไปดูคลังศัพท์ของฝรั่งทางเน็ต
เพิ่มเติม 16 ธค 50:
http://www.free-esl.com/channels/concordancer/default.asp
(พิมพ์คำลงใน Make a Concordance, คลิก, คลิก More Context ที่ท้ายบรรทัดที่ต้องการ )
[273]ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ได้ จากประโยคตัวอย่าง
* * * * * *
สวัสดีครับ
ผมมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า การที่เราจะเข้าใจ(เมื่ออ่านหรือฟัง) และใช้เป็น(เมื่อเขียนหรือพูด)ศัพท์ตัวหนึ่ง ๆ เราต้องเจอศัพท์และใช้ศัพท์ตัวนั้นบ่อย ๆ จนเข้าใจและใช้เป็นได้อย่างออโตแมติก เช่น คำว่า book chair dog cat เราเจอมาตั้งแต่เป็นเด็กชั้นประถม และพูดมานับครั้งไม่ถ้วน ศัพท์พวกนี้จึงหือกับเราไม่ขึ้นเมื่อเราต้องใช้มัน
แต่เมื่อเราโตขึ้นมาอยู่ชั้นมัธยมและมหาวิทยาลัย เราก็เจอศัพท์อีกมากมายที่มันไม่ว่านอนสอนง่ายเหมือน book chair dog cat เราจะจำ-มันก็พยายามทำให้เราลืม เราจะใช้มันในการพูดหรือเขียน-มันก็พยายามชิ่งหนีทำให้เราใช้มันไม่ได้ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะศัพท์ยากพวกนี้เราพบตัวมันได้ยาก เราก็เลยใช้มันได้ยากเมื่อถึงเวลาต้องเรียกใช้
ฉะนั้น การจะสามารถใช้ศัพท์ให้ได้อยู่หมัดอยู่มือเราต้องเรียกมันมาใช้บ่อย ๆ ปัญหาก็คือมันอยู่ที่ไหนกันล่ะเจ้าศัพท์พวกนี้ แม้แต่อ่านหนังสือพิมพ์รายวัน เช่น Bangkok Post หรือ The Nation ก็ใช่ว่าจะเจอทุกวัน พอนานวันมาเจอกันทีมันก็ทำเป็นไม่รู้จักเราซะยังงั้น เราก็เลยเรียกชื่อมันไม่ถูกและมันก็ไม่ยอมเดินเข้ามาหาให้เราเรียกใช้
อันที่จริงในดิกชันนารีอังกฤษ – อังกฤษ ชื่อดังระดับโลกที่ผมเคยแนะนำไว้ที่นี่ http://intereladsd2.blogspot.com/2007/01/17.html
เขาก็มีตัวอย่างดี ๆ ในการใช้ศัพท์แต่ละคำให้เราศึกษา แต่ผมก็รู้สึกว่ามันยังไม่จุใจ เช่น ศัพท์ 1 ตัว 1 ความหมาย มีตัวอย่างให้เราเห็นแค่ 1 หรือ 2 ประโยค มันยังทำให้เราสร้างความสนิทสนมกับศัพท์ใหม่ได้ไม่เพียงพอ ศัพท์ใหม่ก็เลยยังคงเป็นแขกไม่คุ้นหน้าอยู่นั่นเอง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะให้คนทำดิกพิพม์ประโยคตัวอย่างเป็นสิบเป็นร้อยยัดลงไปในดิกเล่มเดียว เขาก็ทำได้เพียงแค่เลือกนำลงพิมพ์เฉพาะตัวอย่างที่เจอบ่อยที่สุด หรือตัวอย่างที่มัน typical 2 – 3 ประโยคเท่านั้น
ผมจึงคิดว่าจะเป็นการดีมากทีเดียว ถ้าเราได้มีโอกาสเข้าไปดูคลังประโยคตัวอย่าง หรือ database ของบริษัทฝรั่งที่เขาทำดิกชันนารีขายคนทั่วโลก และเมื่อสงสัยอยากเห็นประโยคตัวอย่างของการใช้ศัพท์ตัวใดก็สามารถ key ล้วงออกมาดูได้เลย ถ้าทำได้อย่างนี้เราก็จะสามารถทำให้ศัพท์ใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นเคยกลายเป็นศัพท์เก่าที่เราเจอได้บ่อยเท่าที่เราต้องการ ทำให้มันกลายเป็นศัพท์หน้าเก่าเหมือน book chair dog cat ที่ผมยกเป็นตัวอย่างข้างต้น
เราทำได้ครับ - ไม่ได้โม้ และก็ไม่เสียตังค์ด้วย ไปที่เว็บข้างล่างนี้ครับ
http://sara.natcorp.ox.ac.uk/lookup.html
เมื่อท่านเข้าไปแล้ว ท่านก็พิมพ์คำในช่องหน้าคำว่า Solve it! แล้วคลิก เขาก็จะไปค้นศัพท์ตัวนั้นใน database ของเขา และเรียกออกมาเรียวแถวรายงานตัวให้ท่านเห็นเป็นหลายสิบ หลายร้อย หรือหลายพันประโยค โดยสุ่มมาให้ท่านดูครั้งละประมาณ 50 ประโยค ถ้าท่านดูยังไม่จุใจ ก็ให้คลิกลูกศร back กลับมายังหน้าที่ท่าน key ในช่อง Solve it! แล้วคลิกให้เครื่องสุ่มให้ท่านดูใหม่อีก 50 ประโยค ทำไปอย่างนี้จะกว่าท่านจะพอใจ ผมรับรองได้เลยว่าด้วยวิธีนี้ ท่านจะสามารถสร้างความสนิทสนมกับศัพท์ตัวไหนก็ได้ที่ท่านต้องการ
ถึงตรงนี้อาจจะมีปัญหาอยู่นิดนึงนะครับ คือประโยคจำนวนมากมายที่เครื่องดึงมาโชว์ท่านนั้น ศัพท์ที่ท่านหมายตามันไม่สะดุดตา ท่านต้องเกร็งสายตาอ่านไปทีละคำจนพบคำนั้นที่ยืนนิ่งอยู่ในประโยค ทำไปอย่างนี้ไปนาน ๆ อาจจะปวดตาและปวดใจไม่อยากอ่านต่อ ปัญหานี้แก้ได้ด้วย 2 วิธีครับ คือ
ให้ท่านกด Control F แล้วพิมพ์คำค้นของท่านลงไป และกด Next ไปเรื่อย ๆ
สำหรับท่านที่ใช้ Google หรือ Yahoo Toolbar ท่านคงทราบนะครับว่ามีบริการหาคำใน web page เช่นนี้อยู่ด้วย
อ่านมาซะนาน อีกนิดเดียวครับใกล้จบแล้ว ผมขอแนะนำการพิมพ์ คำที่ต้องการค้น ในช่องหน้า Solve it! ทำอย่างนี้ครับ
1.ถ้าเป็น 2 คำ เช่น turn over ให้พิมพ์วรรคแค่ 1 เคาะระหว่างคำ
2. ถ้าเป็น 2 คำ ที่มีคำอื่นแทรกอยู่ 1 คำ ก็ให้พิมพ์แบบนี้ครับ turn _ over คือเว้น 1 เคาะ หน้าและหลังเครื่องหมาย _
3. ถ้าคำนั้น เช่น light ทำหน้าที่เป็นภาคแสดงหรือ verb เท่านั้น ให้เราพิมพ์ light=VVB
4. ถ้าเราพิมพ์ cat*dog ก็แสดงว่า ระหว่าง cat กับ dog มีคำอื่นแทรกอยู่กี่คำก็ได้ แต่ cat ต้องมาก่อน dog
5. ถ้าเราพิมพ์ cat*dog/10 ก็แสดงว่า ระหว่าง cat กับ dog มีคำอื่นแทรกอยู่ไม่เกิน 10 คำ แต่ cat ต้องมาก่อน dog
6. ถ้าเราพิมพ์ cat#dog ก็แสดงว่า ระหว่าง cat กับ dog มีคำแทรกอยู่กี่คำก็ได้ และ cat กับ dog คำไหนมาก่อนก็ได้
ทำนองนี้แหละครับ
*****
อีก 1 เว็บที่ผมอยากแนะนำเป็นคลังประโยคของสำนักข่าว Voice of America
ซึ่งเขาใช้คำศัพท์ประมาณ 1,500 คำเท่านั้น ( http://www.manythings.org/voa/words.htm ) มาใช้เขียนข่าวทั้งหมดของเขาในโปรแกรม Special English เชิญเข้าไปใช้คลังศัพท์ของเขาได้ที่นี่ครับ http://www.manythings.org/voa/sentences.htm ประโยคตัวอย่างจากเว็บนี้ น่าสนใจตรงที่แต่งง่าย เข้าใจง่าย จดจำไปใช้ได้ไม่ลำบาก แต่เขามีศัพท์แค่ประมาณ 1,500 คำเท่านั้นครับ แต่ก็เป็นคำพื้นฐานที่น่าเรียนให้ เข้าใจ - จำได้ - ใช้เป็น ทุกคำเลยครับ
* * * * *
อันที่จริงยังมีเว็บอื่นอีกเหมือนกันที่มีบริการ database ทำนองนี้ แต่ผมเห็นว่าเว็บข้างบนใช้ง่ายที่สุดเลยเอามาแนะนำ ท่านใดยังมีวิริยะสำรองขอเชิญเข้าไปสำรวจเพื่อหาความสำราญเพิ่มเติมได้ที่ 3 เว็บข้างล่างนี้ครับ
http://www.collins.co.uk/Corpus/CorpusSearch.aspx
http://www.edict.com.hk/concordance/WWWAssocWords.htm http://www.lextutor.ca/concordancers/concord_e.html
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 9:35 PM 1 comments
[59] อ่าน “ธรรมบท” เพื่อธรรมรสและอรรถรส
สวัสดีครับ
คัมภีร์สูงสุดของทางศาสนาที่เรียกว่า Scripture นั้น ทั้งของชาวคริสต์และอิสลามมีเพียงเล่มเดียว คือ Bible และ Qur’an เขาถือติดมือไปมาได้สะดวก ส่วนชาวพุทธเรามีพระไตรปิฎกเล่มโต ๆ ถึง 45 เล่ม แม้จะเลือกเล่มที่บางที่สุดมาถือติดมือเวลาเดินทาง ก็ยังหนาและหนักเกินขนาดอยู่นั่นเอง
แต่ผมได้ยินผู้รู้กล่าวไว้ว่า “ธรรมบท” ซึ่งมีความหนาอยู่ไม่กี่หน้าในพระไตรปิฎกเล่มที่ 25 กลับเป็น Buddha’s Teachings ที่ชาวโลกอ่านมากที่สุด เพราะความไพเราะของภาษา และเพราะเนื้อหาธรรมะที่เป็นสากลและกินใจ
หนังสือ ธรรมบทนี้ อาจารย์เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต ได้แปลจากภาษาบาลีออกมาเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้อย่างไพเราะมากในชื่อ “พุทธวจนะในธรรมบท(The Buddha's Words in the Dhammapada)” ขนาดพ็อกเก็ตบุ๊กไม่หนานักพอถือไหว ขณะนี้น่าจะยังมีเหลืออยู่บ้างตามร้านหนังสือ
ถ้าท่านชอบธรรมะและภาษาอังกฤษ ผมเสนอว่า ท่านสามารถปฏิบัติต่อหนังสือเล่มนี้ได้ 2 วิธี คือ
1. เป็นหนังสือถือติดมือเดินทาง ขึ้นเหนือลงใต้ คว้ามาเปิดอ่านได้
2. เป็นหนังสือที่วางไว้ที่หัวเตียง เอวไว้อ่านทุกวันก่อนล้มตัวลงนอน นอนจะไม่ฝันร้าย เพราะมีสติและสมาธิ
แต่ที่แน่ ๆ ถ้าท่านหาซื้อไม่ได้ ในเว็บไซต์มีให้ท่านอ่านฟรี ๆ แน่นอน ไปที่นี่ครับ
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=87.0
= “ธรรมบท” มีอยู่ทั้งหมด 423 บท เมื่อเข้าไปในเว็บแล้ว ที่คอลัมน์ซ้ายมือท่านจะเห็นหมายเลขและชื่อของบทที่เขาเลือกมาเป็นตัวอย่างให้ท่านอ่าน
= แต่ถ้าท่านต้องการอ่านไล่ไปทีละบทตั้งแต่บทที่ 1 จนถึงบทสุดท้าย ก็ให้คลิกที่ลูกศรหัวลงใต้คำว่า “สารบัญธรรมบท ตัวอย่าง” แล้วคลิก “รวมทุกหมวด” ก็จะปรากฏทุกบทเรียงกันไปตั้งแต่บทที่ 1 - 433
= แต่ถ้าท่านประสงค์จะอ่านหมวดหนึ่งหมวดใดโดยเฉพาะ ก็ให้คลิกเลือกเฉพาะหมวดนั้น ก็จะปรากฎทุกบทที่อยู่ภายใต้หมวดนั้นทั้งหมวด
ถ้าท่านอ่านเพียงวันละ 1 - 2 บท (บทละ 4 บรรทัดสั้น ๆ ) ก่อนสิ้นปีท่านอ่านจบเล่มแน่นอน
ทุกบทจะมี 3 ภาษา คือ ภาษาบาลี ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
- ภาษาบาลี – ผมอ่านไม่รู้เรื่อง ขอผ่านครับ
- ส่วนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ - ผมเห็นว่าท่านอาจารย์เสฐียรพงษ์ วรรณปก แปลได้งดงามมาก ทั้งเนื้อหาและวรรณศิลป์
ในส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษนั้น ท่านจะสังเกตได้ว่า บ่อยครั้งที่ท่านผู้แปลไม่ได้เขียนเรียงไปตาม format ปกติ คือ ประธาน – กริยา – กรรม แต่ท่านอาจจะเรียงผิดแปลกออกไป แต่ไม่ผิดวรรณกรรมและไม่ผิดไวยากรณ์
การอ่านธรรมบทเล่มนี้ จะได้ทั้งรสธรรมะ รสภาษา และรสวรรณศิลป์ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษครับ
ท่านใดต้องการไฟล์ หนังสือ "ธรรมบท" ทั้งเล่ม เชิญไปดาวน์โหลดได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ครับ
Dhammapada
พิพัฒน์
แจ้งลิงค์ตายหรือขัดข้องได้ที่ pptstn@yahoo.com ครับ
Posted by pipat - blogger at 1:06 PM 0 comments
[58] แนะนำหนังสือแกรมมาร์
สวัสดีครับ
ถ้าท่านกำลังตัดสินใจซื้อหนังสือแกรมมาร์สัก 1 – 2 เล่ม ผมขอถือโอกาสนี้แนะนำเลยนะครับ
ชุดที่ 1 แต่งโดบ RAYMOND MURPHY มี 2 เล่ม
เล่มที่ 1 คือ ESSENTIAL GRAMMAR IN USE (ฉบับคำอธิบาย ภาษาไทย พร้อมคำเฉลย) รศ. ศรีภูมิ อัครมาส แปล ราคา 389 บาท
เล่มที่ 2 English GRAMMAR IN USE (ฉบับคำอธิบาย ภาษาไทย พร้อมคำเฉลย) ศจ. สุไร พงษ์ทองเจริญ แปล ราคา 399 บาท
ทั้ง 2 เล่มนี้ มีสรรพคุณดียังไง อ่านที่นี่ครับ
http://grad.swu.ac.th/book.htm
ชุดที่ 2 แต่งโดย สำราญ คำยิ่ง มี 2 เล่ม เช่นกัน คือ
เล่มที่ 1 STANDARD ENGLISH GRAMMAR (ฉบับปรับปรุงใหม่) ราคา 100 บาท
เล่มที่ 2 ADVANCED ENGLISH GRAMMAR FOR HIGH LEARNER (ฉบับปรับปรุงใหม่) ราคา 160 บาท
ดูตามเนื้อผ้าก็คงต้องบอกว่าชุดแรกดีกว่า ทั้งเนื้อหาและความเนี๊ยบในการจัดพิมพ์ แต่ที่ผมเอามาแนะนำ 2 ชุดก็เพราะว่า แม้อาจารย์สำราญจะสู้ท่านเรย์มอนด์ไม่ได้ แต่อาจารย์ก็อาจจะพูดกับเรารู้เรื่องมากกว่าเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ท่านเรย์มอนด์แกต้องพูดผ่านล่าม คือ รศ. ศรีภูมิ อัครมาส และ ศจ. สุไร พงษ์ทองเจริญ เราคนอ่านอาจจะงงนิด ๆ ก็ได้ครับ
อย่างไรก็ตาม ลองเลือกเล่มที่ท่านพลิกดูหลาย ๆ หน้าแล้วถูกใจก็แล้วกันครับ แต่ถ้ามีตังค์เหลือจะซื้อไว้หลายเล่มก็ดีครับ เสียเงินซื้อหนังสือพวกนี้คุ้มค่าครับ
พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com
Posted by pipat - blogger at 11:24 AM 0 comments
[57] “two-word verb” ฉบับสมบูรณ์ ที่นี่ครับ
สวัสดีครับ
สำหรับคนไทยทั่วไปซึ่งรวมผมด้วยคนนึง กลุ่มคำที่เรียกว่า “two-word verb” หรือที่ฝรั่งเรียกโดยทั่วไปว่า phrasal verb เป็นของเรียนยากจำยากที่สุดอย่างหนึ่ง คือต้องจำให้ได้ว่า verb ตัวนี้ ต้องต่อด้วย preposition หรือ adverb อะไร และเมื่อต่อแล้วแปลว่าอะไร ไม่รู้จะจำยังไงดีครับ
Two – word verb ขั้นพื้นฐานนั้นควรจะจำให้ได้จริง ๆ หลายคนที่อ่านภาษาอังกฤษไม่ค่อยรู้เรื่อง ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่รู้ศัพท์พวกนี้แหละครับ ฝรั่งนี่ก็แปลก ศัพท์ตัวเดียวใช้ได้รู้เเรื่องก็ไม่ใช้ ดันเอา 2 ตัวมาบวกกันให้เรางงเล่น
ผมเคยใช้วิธีท่องจำ แล้วก็พบว่าไม่ได้ผลเพราะได้หน้าลืมหลัง เลยใช้วิธีที่เป็นธรรมชาติมากกว่า คือ อ่านเยอะ ๆ เมื่อพบทีละตัว และก็ค่อย ๆ จำทีละตัวไปเรื่อย ๆ แต่ทำอย่างนี้ต้องใจเย็นหน่อยเพราะใช้เวลานาน
แล้วผมก็มาพบอีกว่า ทีจริงการท่องจำก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ถ้ามีเทคนิคและอุปกรณ์ช่วยเสริมสักหน่อย เช่น มีตัวอย่างประโยคแสดงการใช้ให้เราจำทั้งแผง มี test ให้ลองทำและเฉลย หรือมีดิกชันนารีเฉพาะให้ค้นได้อย่างรวดเร็วหากเกิดสงสัยขึ้นมาเมื่อตื่นตอนดึกนอนไม่หลับ
เว็บข้างล่างนี้ผมคัดมาให้ท่านขจัดปัญหาข้างบนโดยเฉพาะ คือ มีทั้งช่วย Train และ Test ท่านเรื่อง Two – word verb นี่แหละครับ แล้วก็มีดิกให้ท่านปรึกษาหารือได้อย่างทันอกทันใจ
ขอเชิญใช้บริการได้เลยครับ
1. Train
http://www.englishclub.com/vocabulary/phrasal-verbs-list.htm
http://owl.english.purdue.edu/handouts/esl/eslphrasal.html
http://www.usingenglish.com/reference/phrasal-verbs/ (คลิกที่บรรทัก Index ABCDEF....XYZ)
http://www.eslcafe.com/pv/pv-mng.html
http://www.ego4u.com/en/cram-up/grammar/phrasal-verbs/list
2. Test + เฉลย
http://www.englishclub.com/vocabulary/phrasal-verbs-quiz.htm
http://www.usingenglish.com/reference/phrasal-verbs/quizzes-verbs.html
http://www.usingenglish.com/reference/phrasal-verbs/quizzes-prepositions.html
http://www.usingenglish.com/reference/phrasal-verbs/random-quiz.html
http://www.ego4u.com/en/cram-up/grammar/phrasal-verbs
http://www.englishpage.com/prepositions/prepositions.html
3. ดิกชันนารี
Cambridge International Dictionary of Phrasal Verbs
http://dictionary.cambridge.org/Default.asp?dict=P
http://dictionary.cambridge.org/Default.asp?dict=I
http://www.englishpage.com/prepositions/verb_preposition.html
http://www.englishpage.com/prepositions/phrasaldictionary.html
http://www.phrasalverbdemon.com/dictionarya.htm
ส่วนเว็บนี้น่าสนใจมากครับ เพราะมีทั้ง listening + text, dictionary, quiz และ corpus (คลังประโยคตัวอย่าง)
http://www.phrasalverbdemon.com/index.html
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 4:38 AM 1 comments
[56] ลองทำข้อสอบ Reading เล่น ๆ สักหน่อยไหมครับ
สวัสดีครับที่เว็บนี้ http://www.eslgold.com/reading.html มีแบบฝึกหัด Reading ให้ทำมากมาย โดยแบ่งออกเป็น 5 ระดับ คือ 1. Low Beginning 2. High Beginning 3. Low Intermediate 4. High Intermediate และ 5. Advanced
ลองทำระดับ 1 และ 2 วอร์มอัพเล่น ๆ หน่อยไหมครับ เขาจัดและดีไซน์หน้าเว็บให้ดูน่ารักน่าสนใจทีเดียวครับ
ระดับ 1. low beginning
http://web2.uvcs.uvic.ca/elc/studyzone/200/reading/
ระดับ 2. High beginning
http://web2.uvcs.uvic.ca/elc/studyzone/330/reading/index.htm
ข้อสอบแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ
1. Reading Comprehension คือให้อ่านและคลิกคำตอบ
2. Recreating the Story ให้เอาข้อความจากเรื่องเดิมมาต่อกันเจนจบเรื่อง
3. Gap – fill exercise พิมพ์คำลงในช่องว่าง
ทุก test มีเฉลยครับ
ผ่าน 2 ระดับนี้แล้ว ถ้ารู้สึกว่าง่ายไปก็ขยับไปทำระดับ 3 - 4 – 5 ได้เลย มีให้ลองเล่นอีกมหาศาลที่เว็บซึ่งแจ้งไว้ข้างต้นครับ
ถ้าต้องการเปิดดิกก็ไปที่นี่ครับ
1. http://lexitron.nectec.or.th/index.php
2. http://www.cyberdict.com/main.php?filename=dictonline_englist_th
พิพัฒน์
GemTriple@gmail.com
Posted by pipat - blogger at 3:01 AM 2 comments
Tuesday, February 13, 2007
[55] ศึกษาอังกฤษจาก Voice of America
สวัสดีครับ
ถ้านับเว็บของสำนักข่าวทางด้านประเทศอังกฤษ ผมคิดว่าเว็บการสอนภาษาของ BBC นั้นอยู่ในอันดับแนวหน้า : http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/
แต่ถ้านับสำนักข่าวของอเมริกัน ผมคิดว่าเว็บ Special English ของVOA น่าสนใจอันดับแรก น่าสนใจเพราะอะไร
1. เขาใช้ศัพท์ที่พบบ่อย ประมาณ 1,500 คำเท่านั้น: http://www.manythings.org/voa/words.htm
2. ข่าวที่ฟังจากเว็บนี้เป็น low speed คืออ่านข่าวอย่างชัดและช้า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการฝึกหัดฟัง สำเนียงและสำนวนภาษาอังกฤษ
3. หลาย ๆ ข่าว มีไฟล์เสียงให้ฟัง และ script ข่าวให้อ่านพร้อมกันไป
เราสามารถใช้เว็บนี้เป็นเว็บประจำในการฝึกภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี ได้แก่
(1) เข้าไปทำ test หรือเล่มเกมสนุก ๆ ทางภาษา ซึ่งมีมากมายเหลือเกิน เกมเหล่านี้ช่วยให้ท่านจำศัพท์และใช้ศัพท์ 1,500 คำพื้นฐานนี้ได้อย่างมั่นใจ:
ก. From manythings.com: http://www.manythings.org/e/voa.html
ข. Word and Their Stories: http://www.manythings.org/e/voa.html
ค. Games with Words: http://www.voanews.com/specialenglish/english_word_games.cfm
ง. Other Resources: http://www.voanews.com/specialenglish/other_resources.cfm
จ. From vocaboly.com: http://www.vocaboly.com/vocabulary-test/
(2) เข้าไปอ่านข่าว หรือฟังข่าวภาคภาษาไทย ที่ช่วยฝึกภาษาอังกฤษไปในตัว: http://www.voanews.com/thai/
(3) เข้าไปอ่านและฟังข่าวรายวัน: http://www.voanews.com/specialenglish/
(4) คลิกเพื่อฟังสรุปข่าวรายวัน low speed (World News): http://www.voanews.com/real/voa/english/spec/specengla.ram
(5) เข้าไปอ่านข่าวย้อนหลัง ซึ่งมี file เสียงให้ฟังพร้อมกันไปด้วย
ก. http://www.voanews.com/specialenglish/words_and_their_stories.cfm
ข. http://www.voanews.com/specialenglish/archive/index.cfm
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 7:11 PM 0 comments
Thursday, February 8, 2007
[54] ชม Internet Videos ฝึกภาษา
สวัสดีครับ
ในอินเคอร์เน็ตมีวีดิโอให้เราชมฟรี ๆ มากมาย ถ้าเราใช้เพื่อการศึกษาภาษาอังกฤษ ก็จะเป็นตัวช่วยที่วิเศษอย่างยิ่ง บางทีท่านอาจจะต้องลงทุนติดตั้งอินเตอร์เน็ต high speed เพื่อให้ชมได้สบาย ๆ
เมื่อท่านเข้าไปที่เว็บเหล่านี้แล้ว ท่านสามารถพิมพ์คำเพื่อหาเรื่องที่ท่านต้องการชมที่ช่อง Search หรือจะคลิกเลือกตาม Menu หลากหลายที่เขาจัดไว้ให้ก็ได้
[อย่าเผลอไปชมรายการนอกหลักสูตรมากเกินไปนะครับ เดี๋ยวจะไม่ได้ศึกษาภาษาอังกฤษอย่างที่ตั้งใจไว้ ]
http://video.google.com/
http://video.google.com/videoranking
http://video.google.com/videomovers
http://youtube.com/
http://youtube.com/browse?s=tr&t=w
http://www.ifilm.com/
http://www.ifilm.com/top100
http://keepvid.com/ เว็บนี้สามารถดาวน์โหลดไฟล์วีดิโอมาเก็บไว้ในเครื่องได้ โดย copy URL ของไฟล์วีดิโอจากเว็บข้างต้นมา paste ที่เว็บนี้แล้วคลิก DOWNLOAD
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 10:29 PM 0 comments
[53] คุยกันเรื่องแกรมมาร์
สวัสดีครับ
ชาวไทยใช้ภาษาไทยมาตั้งแต่เด็ก หลายคนไม่ชอบเรียนวิชาหลักภาษาไทย แต่ก็พูดไทยเขียนไทยไม่ผิดหลักภาษา ชาวอังกฤษใช้ภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก หลายคนไม่ชอบเขียนแกรมมาร์ แต่ก็พูดอังกฤษเขียนอังกฤษไม่ผิดแกรมมาร์ หลักภาษาหรือแกรมมาร์จึงเป็นอะไรที่เจ้าของภาษาค่อยๆเรียนรู้เรื่อยๆมาตั้งแต่เด็ก จากการฟัง – พูด – อ่าน – เขียนภาษาของเขา
แต่เมื่อชาวอังกฤษต้องเรียนภาษาไทย หรือชาวไทยต้องเรียนภาษาอังกฤษ การรู้หลักภาษาหรือแกรมมาร์ก็น่าจะสำคัญ เพราะว่าเมื่อไม่ได้เรียนสิ่งนี้มาโดยถูกธรรมชาติตั้งแต่เด็ก เลยต้องมาเรียนโดยผิดธรรมชาติตอนโตแล้ว
ท่านอาจจะบอกว่า แม่ค้าแถวพัทยาหรือพัฒน์พงษ์ไม่เห็นต้องเรียนแกรมมาร์แต่ก็ขายของได้และทำไมเราต้องฝืนใจเรียนแกรมมาร์ให้เหน็ดเหนื่อย
ก็จริงครับว่าแม่ค้าอาจจะไม่ต้องเรียนก็รู้ได้และใช้เป็น แต่ถ้าเป็นการพูดที่ซับซ้อนกว่าการซื้อขายต่อรองราคาล่ะครับ แม่ค้าจะพูดถูกไหมครับ
ผมขอยกตัวอย่างการอ่อนในเรื่องหลักภาษามาให้เห็นเป็นตัวอย่างเล่นๆ 2-3 ตัวอย่าง ขอยกตัวอย่างกรณีภาษาไทยนะครับ
มีอยู่คราวหนึ่ง ผมไปเที่ยวบ้านเพื่อนซึ่งพักอยู่กับยายชราชาวจีนที่พูดภาษาไทยไม่ค่อยคล่อง ผมไปบ้านเขาครั้งก่อนนานแล้ว เมื่อยายเห็นหน้าผมยายพูดว่า “นานๆค่อยมาเยี่ยมนะ” เพื่อนเห็นหน้าผมตกใจจึงบอกว่า ยายของเขาต้องการพูดว่า “นานแล้วนะไม่ได้มาเยี่ยม” ผมแน่ใจว่ายายไม่ได้เรียนหลักภาษาไทย
ผมเคยเห็นป้ายถือเคล็ดให้โชคของหลวงพ่อคูณติดไว้ที่บางบ้านว่า “บ้านนี้คนอยู่รวย” มาคิดเล่นๆว่าถ้าเขียนเพี้ยนไปเป็น “บ้านนี้คนรวยอยู่” ก็อาจจะผิดเคล็ดทันทีทำให้อยู่ ร. เรือ กลายเป็นอยู่ ซ. โซ่ แล้วจะพูดว่าหลักภาษาไม่สำคัญได้ยังไง
ระหว่างคำว่า “a shark-eating man” (คนที่กินปลาฉลาม) กับคำว่า “a man-eating shark” (ฉลามที่กินคน) มันคนละเรื่องเลยครับ แค่วางสลับที่กันนิดเดียว
หลายครั้งที่ใช้ภาษาผิดไปเพียงนิดๆหน่อยๆ ความหมายกลับเพี้ยนจนเกินให้อภัย เช่นจะพูดว่า “บ่อยครั้งที่สมชายแทงหวยถูก” กลับไปพูดว่า “บ่อยครั้งที่สมชายถูกหวยแทง” นี่เป็นการใช้ active voice และ passive voice ที่ไม่ถูกต้อง
หรือแม้ว่าจะมิได้ใช้ภาษาผิดหลักอย่างฉกรรจ์ เช่น แทนที่จะพูดว่า ฝนตกหนัก (heavy rain) – ลมพัดแรง (strong wind) กลับพูดว่า ฝนตกแรง (strong rain) ลมพัดหนัก (heavy wind) ฟังดูแล้วก็ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ
จากตัวอย่างข้างต้นนี้เราสามารถคิดเทียบเป็นภาษาอังกฤษได้ไม่ยาก เมื่อคนไทยพูดหรือเขียนอังกฤษผิดแกรมมาร์ ผลที่เกิดขึ้นก็คล้ายกัน คือมีตั้งแต่เสียหายน้อยและไม่จำเป็นต้องแก้ไขไปจนถึงเสียหายมากจนแก้ไขไม่ได้
เอาละ เมื่อเราหมดโอกาสเรียนแกรมมาร์ตามธรรมชาติจากการพูดจามาตั้งแต่เด็กเพราะเราเกิดเมืองไทยที่ภาษาอังกฤษ “ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่” ของเรา ก็เหลืออีก 2 วิธีอื่นที่เราจะเรียนแกรมมาร์หรือหลักภาษาของฝรั่ง คือ
วิธีที่ 1 ฟังเยอะๆและอ่านเยอะๆ และพยายามสังเกตจดจำภาษาที่ฝรั่งพูดและเขียนและ copy เขา ถ้าเราสังเกตและจดจำอย่างเข้มข้น เราก็จะพูดและเขียนไม่ผิดมากนัก แต่ผมสังเกตว่าคนไทยไม่ชอบอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย หรือภาษาของคนต่างด้าว เมื่อไม่ชอบอ่านจึงไม่มีตัวอย่างให้ copy จึงพูด – เขียนภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ หรือพูด – เขียนได้แต่ไม่ค่อยถูก
วิธีที่ 2 เรียนจากตำราแกรมมาร์ คนไทยจำนวนไม่น้อยเก่งแกรมมาร์ อธิบายหลักแกรมมาร์ได้ แต่กลับพูดและเขียนอังกฤษไม่ค่อยได้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่า เป็นการเรียนแกรมมาร์ที่มิได้ถูกเสริมด้วยการฟังและการอ่านอย่างพอเพียง พอถึงเวลาที่ต้องพูดหรือเขียนจึงทำไม่ค่อยได้ เหมือนเรียนทฤษฎีการยิงปืน แต่ไม่เคยเหนี่ยวไกปืนสักโป้ง จะยิงปืนเป็นได้ยังไง แต่อย่างไรก็ตาม แม้การอ่านตำราอย่างเดีนวจะไม่พอ แต่การไม่แตะตำราเสียเลยก็ไม่ควร การอ่านตำราจะช่วยให้เราย่นเวลาในการสังเกตการใช้ภาษา ตำราช่วยทำให้เราไม่ต้องคลำหาทางหรือหลงทางนานเกินไป
ในยุคหลังๆนี้ผมได้ยินหลายคนพูดว่า แกรมมาร์จากตำราไม่สำคัญ ผมเห็นด้วยว่าถ้าเราศึกษาแกรมมาร์จากการอ่านมากๆ และฟังมากๆ เราก็อาจจะไม่จำเป็นต้องศึกษาแกรมมาร์จากตำรา แต่ถ้าอ่านก็ไม่อ่าน ฟังก็ไม่ฟัง ตำราแกรมมาร์ก็ไม่จับ โดยกระโดดลงไปพูดหรือเขียนเลย แล้วหวังว่าจะพูดได้เขียนได้อย่างถูกต้อง ผมว่ามันเหลือเชื่อครับ!
หลายท่านคงเคยได้ยินเรื่องของบางคนที่มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษทุกวันก็ทำให้พูดได้คล่อง โดยไม่ต้องเรียนแกรมมาร์ แต่ผมมีตัวอย่างตรงกันข้ามมาเล่า 1เรื่อง ผมพบกับป้าคนหนึ่งได้สามีเป็นคนสวิตและไปเปิดร้านอาหารไทยที่เมืองเซนต์กาเลน และอยู่ที่นั่นมา 12 ปี ผมถามว่าป้าคงพูดภาษาสวิตคล่องมากซีครับ แกบอกว่าก็พอถูๆไถๆพูดไปได้ “ป้าเพิ่งมาพูดตอนอายุเยอะแล้ว ก็พูดกันรู้เรื่อง แต่ไม่ดีเด่อะไร ได้หัวกับท้ายแหว่งตรงกลาง ได้กลางกับหัวแหว่งตรงท้าย เราไม่ได้เรียนเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนคนอื่นเขา” นี่คุณป้าจากบ้านนอกการศึกษาไม่สูงยังรู้เลยว่าแกรมมาร์สำคัญ
เมื่อท่านศึกษาแกรมมาร์จากตำรา ถ้าศึกษาให้เข้าใจแต่จำไม่ค่อยได้ – ไม่ต้องกังวลครับ ขอเพียงศึกษาให้เป็นพื้นไว้ เมื่อท่านฝึกอ่านบ่อยๆและฟังบ่อยๆ แกรมมาร์ที่ท่านศึกษาไว้นี้จะช่วยให้ท่านเข้าใจวิธีการเขียนเมื่อท่านฝึกอ่าน และเข้าใจวิธีการพูดเมื่อท่านฝึกฟัง ผลลัพธ์ก็คือแกรมมาร์ที่ท่านอ่านจากตำราก็จะถูก upgrade เป็นแกรมมาร์ที่ท่านเข้าใจจริงๆ และจำได้โดยไม่ต้องบังคับให้ตัวเองจำ ท่านจะพูดได้เขียนได้อย่างถูกต้องตามหลักแกรมมาร์ ไม่ทำให้คนฟังตกใจเหมือนที่คุณยายทำกับผม หรืออาจจะตรงกันข้าม คือ ฝรั่งตกใจว่าทำไมท่านจึงพูดฝรั่งได้ดีจัง นี่ผมไม่ได้พูดเว่อให้ขำเล่น ผมพูดจริงๆครับ
พิพัฒน์
Posted by pipat - blogger at 4:42 PM 2 comments
[52] เนื่องในวันแห่งความรัก
สวัสดีครับ
พอถึงช่วงนี้ Valentine’s Day หลายคนคงจะคิดถึงสิ่งที่เรียกว่า “ความรัก” หลายปีมาแล้ว ตอนที่ผมยังเป็นเด็กปี 1 ผมเจอเพลง 1 เพลง และกลอน 3 บท เนื้อหาซาบซึ้งมาก มาวันนี้เมื่อร้องเพลง ๆ เดิม และอ่านกลอนบทเดิม ก็ยังรู้สึกซาบซึ้งอยู่เหมือนเดิม ขอเอามาแบ่งปันกันนะครับ
***อยากมอบความรักเพื่อคนทั้งโลก***
อยากมอบความรัก เพื่อคนทั้งโลก
อยากจะให้โชค เพื่อคนทั้งหล้า
อยากให้รอยยิ้ม ลบคราบน้ำตา
อยากให้ชีวา แก่คนทั้งปวง
อยากให้คนทุกข์ พ้นทุกข์ลำเค็ญ
ความเคืองเข็ญ แค้นยากลำบากใหญ่หลวง
ให้สิ้นทุกข์ สร้างสุขในใจทุกดวง
อยากให้ปวง คนทุกข์เป็นสุขสันต์
อยากอุทิศ ชีวิตทั้งหมดนี้
เพื่อสร้าง ความดี ไม่เคยหวั่น
จะเร่งสร้าง ทั้งคืนและทั้งวัน
เพื่อชีวิต อันสั้นนั้นมีราคา
***ปลูกต้นรัก***
ปลูกต้นรักในฤทัยให้แตกหน่อ
ชูช่อเหนือพงดงหนาม
ผลิกดอกรักที่ไม่เปื้อนด้วยเงื่อนกาม
รักที่ไม่ทวงถามความถูกใจ
รักด้วยความเข้าใจในชีวิต
สรรพสัตว์คือหมู่มิตรน้อยใหญ่
ไม่โกรธแค้นพยาบาทอาฆาตใคร
เรื่องเอาเปรียบทำไม่ได้ไม่อาจทำ
จะเกื้อกูลเพื่อนอยู่ไม่รู้สิ้น
หลั่งรินรักปริ่มอิ่มหนำ
เฝ้าชำระใจจืดมืดดำ
ดำเนินนำด้วยชีวิตมิตรไมตรี
ด้วยความรักครับ
พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com
อ่าน Valentine’s Day เป็นภาษาอังกฤษ: http://en.wikipedia.org/wiki/St_Valentine
อ่าน วันวาเลนไทน์ เป็นภาษาไทย: http://tinyurl.com/24oagg
Posted by pipat - blogger at 12:10 PM 0 comments
Tuesday, February 6, 2007
[51] ฝึกฟังอังกฤษให้รู้เรื่อง
สวัสดีครับ
ในการฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่อง ต่างคนก็อาจจะใช้ต่างวิธีไปตามความชอบของตน บางคนอาจดูหนัง – ฟังเพลง แต่บางคนอาจชอบฟังข่าว ฟัง story ฟังบทสนทนา ฯลฯ
แต่ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฟังแบบไหน การฟังให้รู้เรื่องก็คือต้องรู้ทั้ง “สำเนียง” และ “สำนวน(+ศัพท์)” ในเรื่องสำนวนนั้น การอ่านช่วยได้เยอะ ถ้าเรารู้สำนวนตุนไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาฟังก็จะมีปัญหาเพียงเรื่องสำเนียงอย่างเดียว
ผมมีหลักส่วนตัวง่ายๆในการฝึกฟังภาษาอังกฤษให้รู้เรื่องดังนี้ครับ
1. ฟังจากน้อยไปมาก จากเรื่องสั้นๆไปยาวขึ้น
2. ฟังจากเรื่องง่ายๆไปเรื่องยาก
3. ฟังจาก speed ช้าๆแล้วค่อยขยับไปฟัง normal speed
4. หาเรื่องที่ชอบฟังก่อน จะได้ไม่ต้องข่มใจเมื่อฝึกฟัง
5. อ่าน script ก่อนฟัง หรืออ่านพร้อมกับฟัง เมื่อคล่องแล้วก็ฟังโดยไม่ต้องดู script
ส่วนเรื่องจิตใจ จะต้องไม่ใจร้อน และไม่ใจเย็น
ไม่ใจร้อน คือ ไม่กระวนกระวายบังคับตัวเองให้ฟังรู้เรื่องอย่างรวดเร็ว การฟังไม่รู้เรื่องมิได้แปลว่าไม่ได้เรื่อง ขอรับรองว่าได้เรื่องครับ อย่างน้อยก็ได้รู้สำเนียง ซึ่งจะนำไปสู่การรู้สำนวน ประโยคนี้มิได้มุสาเพื่อให้กำลังใจ แต่เป็นความจริง 100 เปอร์เซนต์
ไม่ใจเย็น คือ เหมือนเต่าที่เดินช้าๆแต่เดินไม่หยุด ไม่พักนอนข้างทาง น้ำหยดลงตุ่มทีละหยด แต่หยดไม่หยุด ไม่นานนักก็เต็มตุ่ม
ผมรวบรวมหลายเว็บที่ช่วยฝึกภาษาอังกฤษไว้ข้างล่างนี้ เว็บเหล่านี้ดีตรงที่มี script ให้เราฝึกอ่านก่อนฟังหรืออ่านไปพร้อมกับฟัง มีแบบฝึกหัดให้ลองทำ มีเฉลยให้เราดู และมีหลากหลายประเภทให้เราเลือกเล่น – เลือกฝึก – เลือกฟัง ตามพละกำลังและความชอบ ท่านสามารถฝึกฟังบทใดก็ได้ซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ตามใจชอบ ถ้าชอบใจเว็บใดก็ทำ Favorite ไว้เลยจะได้ไม่ต้องหาอีกในตอนหลัง
1. คำคู่ที่ออกเสียงคล้ายกัน: http://www.manythings.org/pp/ เว็บนี้ท่านอาจจะต้องลงโปรแกรม Flash Player Plug-in
2. ฟังแล้วพิมพ์ตอบ: http://www.manythings.org/fq/d1/
3. ฟังแล้วคลิกตอบ มี 4 choice: http://www.manythings.org/fq/1/6999.html
4.ฟังการ pronounce และ stress: http://www.soundsofenglish.org/pronunciation/index.htm
5. ฟัง + อ่านข่าวโลกรายวัน: http://www.breakingnewsenglish.com
6. ฟังวลีที่ใช้ในการสนทนา: http://www.eslgold.com/listening.html คลิกเลือก level ที่จะฟังใต้บรรทัด “Click on the level you would like to study”
7. เว็บ talking Dictionary ฟังการออกเสียงคำที่ต้องการฟัง
http://encarta.msn.com/encnet/features/dictionary/dictionaryhome.aspx
http://www.allwords.com/
http://www.m-w.com/
http://www.yourdictionary.com/
8. ฟัง story ต่าง ๆ มากมาย
http://www.rong-chang.com/qa2/
http://www.esl-lab.com/
http://www.focusenglish.com/
http://literacynet.org/cnnsf/archives.html
http://www.rong-chang.com/eslpjt/dailyEng.htm
http://www.rong-chang.com/book/
และยังมีให้ฝึกฟังอีกมากมายข้างล่างนี้ครับ
http://www.lclark.edu/%7Ekrauss/toppicks/listening.html
http://www.lclark.edu/%7Ekrauss/toppicks/listening2.html
http://www.manythings.org/listen/
http://www.englishclub.com/listening/index.htm
InterelaDSD
Posted by pipat - blogger at 12:20 PM 3 comments
Friday, February 2, 2007
[50] เว็บนี้เพื่อเด็กโดยเฉพาะครับ
สวัสดีครับ
เว็บนี้ http://www.web-books.com/Language/Inter0/English_Main.htm
เหมาะมากครับ สำหรับน้อง ๆ ที่เริ่มเรียนศัพท์ระดับพื้นฐาน เพราะช่วยทั้งการอ่านและการฟัง อย่างเพลิดเพลิน ถ้าเล่นบ่อย ๆศัพท์จะเพิ่มขึ้นหลายคำได้อย่างรวดเร็ว แถมยังฟังรู้เรื่อง และ ออกเสียงตามได้อีกด้วย
ท่านจะสังเกตเห็นว่า ที่คอลัมน์ซ้ายมือ มีเป็นช่อง ๆ 3 X 9 = 27 ช่อง แต่ละช่อง คือ 1 ประเภทของภาพ
ตอนเริ่มเล่น ก็ให้คลิกภาพใดภาพหนึ่งใน 27 ภาพซ้ายมือ
มีปุ่มให้เล่น 3 ปุ่ม คือ
1. Writing Test: http://www.web-books.com/Language/Inter0/Pages/TestW/Default.htm ให้คลิกภาพที่ตรงกับคำศัพท์
2. Basic Lesson: http://www.web-books.com/Language/Inter0/Pages/Book/Default.htm คลิกที่ภาพ ก็จะมีเสียงศัพท์ของภาพนั้น
3. Listening Test: http://www.web-books.com/Language/Inter0/Pages/TestS/Default.htm คลิกที่รูปลำโพงเพื่อฟังเสียง และคลิกที่ภาพให้ตรงกัน
พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com
Posted by pipat - blogger at 8:41 PM 1 comments