สวัสดีครับ
มีท่านผู้อ่านถามผมเกี่ยวกับข้อสอบและการสอบภาษาอังกฤษเพื่อเข้าเรียนต่อปริญญาโท ผมไม่แน่ใจว่าประสบการณ์ของผมเมื่อหลายปีก่อนจะใช้ได้หรือไม่ ถือว่าคุยกันเล่น ๆ แล้วกันครับ
ผมเดาว่าข้อสอบดังกล่าวของแต่ละมหาวิทยาลัยและแต่ละคณะคงมีส่วนต่างกันบ้าง ถ้าจะให้ได้ข้อสอบเจาะจงตรงเป้า ก็คงต้องไปหาซื้อข้อสอบของมหาวิทยาลัยนั้นและของคณะนั้นมาศึกษา ว่าเนื้อหาและสัดส่วนของข้อสอบภาษาอังกฤษ เพื่อสอบเข้าปริญญาโทคณะนั้น ๆ มีลักษณะอย่างไร
แต่ถ้ามองหรืออีกแง่หนึ่ง ท่านไม่ต้องไปสนใจแสวงหาข้อสอบดังกล่าวก็ได้ครับ ตามความเห็นของผม ข้อสอบภาษาอังกฤษที่ใช้สอบเข้าปริญญาโทในเมืองไทย สถาบันไหน ๆ ก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละ คือ ส่วนใหญ่จะเน้นการทดสอบทักษะด้านการอ่าน หรือ reading เพราะในการเรียนปริญญาโท หากอ่าน text ภาษาอังกฤษได้ ก็จะช่วยให้การศึกษาค้นคว้าเป็นไปได้อย่างกว้างขวางมีประสิทธิภาพ
จากประสบการณ์ที่ผมเคยผ่านเวทีการสอบภาษาอังกฤษมาทั้ง 3 เวที คือ การสอบเข้าเรียนต่อปริญญาโท การสอบ TOEFL และการสอบชิงทุนกรมวิเทศสหการไปอบรมต่างประเทศ ถ้าท่านถามว่ายากไหม และจะเตรียมตัวยังไงให้สอบได้ คำตอบง่าย ๆ ของผมก็คือ ถ้าท่านอ่านหนังสือพิมพ์ Bangkok Post หรือ The Nation ได้รู้เรื่องไม่ต่างกันมากนักกับการอ่านไทยรัฐหรือเดลินิวส์ รับรองว่าภาษาอังกฤษที่สอบเข้าปริญญาโทจะไม่เป็นปัญหา สำหรับท่าน เพราะฉะนั้นถ้าท่านฟิตตัวเองด้วยการอ่าน Bangkok Post และ The Nation ทุกวัน ท่านสอบผ่านแน่ ๆ ครับ
ถึงตรงนี้ ขอแนะนำให้ท่านใช้บริการจากลิงค์นี้ครับ :
[311] เชิญดาวน์โหลด Bangkok Post ฉบับบอกศัพท์
[39] เรียนภาษาจากหนังสือพิมพ์
ผมเคยเห็นหนังสือบางเล่มที่เขารวบรวมศัพท์ภาษาอังกฤษในการสอบปริญญาโท ในความเห็นส่วนตัวการท่องศัพท์อัดเข้าไปในสมองแบบนี้ ดิบเกินไป และมักจะจำยาก-ลืมง่าย การจำศัพท์ที่ถูกต้องควรเป็นการจำอย่างเป็นธรรมชาติ คือเราพบศัพท์ตัวนั้น เมื่อเราอ่าน หรือฟัง (หรือถึงขั้นเอาศัพท์ตัวนั้นมาพูดหรือเขียนดัวยตัวเอง) แล้วเราค่อย ๆ ฝึกเดาและตีความความหมายของศัพท์และเนื้อเรื่อง ในไม่ช้าก็จะจำได้-และใช้เป็น
การเอาแต่ท่องจำอย่างเดียว จะทำให้สมองส่วนที่ใช้ในการเดาและตีความฟ่อ ในทางตรงกันข้ามการเดาจะช่วยให้เรารู้ศัพท์ และการตีความจะช่วยให้เรารู้เรื่อง การฝึกเดาและตีความ เพื่อให้รู้ศัพท์และรู้เรื่อง จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำไปเรื่อย ๆ ไม่มีทางลัด
จริง ๆ แล้วการท่องจำศัพท์ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ถ้าไม่ฝึกเดาและตีความไปพร้อม ๆ กัน ถึงจำศัพท์ได้แต่ก็อาจจะอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะ
(1) ศัพท์คำหนึ่งเมื่อเปิดดิกดูแล้วอาจจะมีถึง 10 ความหมาย-เลยเลือกไม่ถูกว่าจะเอาความหมายใดมาใช้กับเนื้อเรื่องที่กำลังอ่าน และ
(2) แม้จะเลือกความหมายได้แล้ว ก็ต้องตีความให้เข้ากับเรื่องที่อ่านจึงจะอ่านรู้เรื่อง การตีความจึงเป็นการใช้ความคิดที่สูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง และต้องการการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
ถ้าท่านต้องการศึกษาเรื่องการเดาความหมายของศัพท์ขอเชิญไปที่ลิงค์นี้ครับ :
[71] เดาศัพท์จากเรื่องที่อ่าน-เดายังไง?
ขออวยพรให้ทุกท่านที่กำลังฟิตภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบเข้าเรียนปริญญาโทได้เข้าเรียนตามความตั้งใจ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ
พิพัฒน์
pptstn@yahoo.com
Wednesday, October 3, 2007
[312]การสอบภาษาอังกฤษเข้าเรียนต่อปริญญาโท
Posted by pipat - blogger at 2:10 PM
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment